บ.ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด จัดงานแสดงความยินดีแก่นักแข่งยามาฮ่าไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ชุดสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ในรอบ 40 ปี รายการ “จักรยานยนต์ทางเรียบรายการ ซูซูก้า4ชั่วโมง เอนดูร้านแชมเปี้ยนชิพ” พร้อมเชิญสื่อมวลชนร่วมพูดคุย ถึงเบื้องหลังความสำเร็จของการแข่งขัน โดยมีนายธีรพงษ์ โอภาสกรกุล ผู้ดการทั่วไปอาวุโสฝ่ายมอเตอร์สปอร์ตและศูนย์ฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า , นางสรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัทไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด และ3นักแข่ง ประกอบไปด้วย “เบิร์ด” ประวัติ ญาณวุฒิ, “ตี” อณุภาพ ซามูล และต๋ง พีรพงษ์ บุญเลิศ ร่วมพูดคุย ณ อาคารยามาฮ่า ไรเดอร์ คลับ ถนนเกษตร นวมินทร์ เมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา

นายธีรพงษ์ โอภาสกรกุล ผู้จัดการทั่วไปอาวุโสฝ่ายมอเตอร์สปอร์ตฯ เผยเบื้องหลังว่า ก่อนหน้าจะเดินทางไปถึงญี่ปุ่นเพื่อร่วมการแข่งขันรายการนี้ ที่ผ่านมามีเพียง ต๋ง พีรพงษ์ บุญเลิศ เพียงคนเดียวที่เคยไปร่วมงานกับทีมแข่งของญี่ปุ่น แต่ผ่านการแข่งขันได้ครึ่งทางก็เกิดรถล้มจนไม่สามารถจบการแข่งขัน การไปในปีนี้จึงเป็นครั้งแรกของทีมงานไทยและนักแข่งไทยที่ไปแบบเต็มทีม แต่ได้รับการสนับสนุนจาก ยามาฮ่า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่นสนับสนุนเรื่อง เจ้าหน้าที่ประสายงานทีมหรือ ล่าม เนื่องจากทราบดีว่าที่ญี่ปุ่นใช้แต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้นและการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญมาก ต้องวางแผนอย่างรัดกุมที่สุด เมื่อถึงญี่ปุ่น ส่วนข้อมูลการขับขี่ก็ใช้วิธีเก็บข้อมูลจากการซ้อมที่มีอย่างจำกัด ทำให้นำมาวางแผนได้ และเมื่อเริ่มวางแผนการแข่งจึงเริ่มเห็นโอกาส เนื่องจากเวลาในแต่ละช่วงของสนามนักแข่งทั้งสองของไทยคือ อนุภาพ และพีรพงษ์ ทำได้ดีมาก ขณะเดียวกัน ประวัติ ก็ทำหน้าที่เหมือนโค้ช คอยตรวจสอบทุกอย่าง เก็บข้อมูลมาร่วมวางแผน จึงทำให้เห็นโอกาสว่ามีลุ้น 5 อันดับได้

จนถึงเวลาแข่งจริง ทั้งอนุภาพและ พีรพงษ์ ทำเวลาได้ดีและใช้ยางน้อยมาก ทำให้ลดจำนวนการสนับนักแข่งและเติมน้ำม้นจากที่เคยวางไว้ 5 ครั้งเหลือแค่.4 ครั้งเท่านั้น ชัยชนะครั้งนี้ จึงกล่าวได้ว่าเป็นเพราะมีความร่วมมืออย่างเต็มที่ของทุกและการทำการบ้านอย่างนักของทุกคนจึงประสบความสำเร็จ

ขณะที่ พีรพงษ์ นักแข่งไม้แรก กล่าวถึงความสำเร็จว่า เกิดจากทุกคนช่วยกันเต็มที่ ทำหน้าที่อย่างหนักจนประสบความสำเร็จ เช่น ประวัติ คอยดูสถานการณ์ และให้ข้อมูลที่สำคัญตลอดเวลา นอกจากนี้ ต้องชม อนุภาพ ทำเวลาขับขี่ได้ดี โดยเฉพาะหลังจากช่วงที่ทีมโดยลงโทษ สต๊อกแอนด์โก ทำให้เวลาตามหลังทีมอื่นถึงกว่า30 วินาที โดยมีรอบเหลือประมาณ10 รอบ ซึ่งอนุภาพ สามารถทำเวลาได้เร็วกว่าทีมอื่นรอละ 5 วินาทีทำให้กลับมาแซงเป็นอันดับ 1 ได้ จนกระทั่งสารถคว้าแชมป์ได้

ด้านอนุภาพ กล่าวว่า ตนและนักแข่งตลอดจนทุกคนในทีมช่วยกันอย่างเต็มที่ คิดเพียงอย่างเดียวว่า จะแพ้ไม่ได้ แต่ในการขับขี่ต้องไปแบบระวังที่สุดเนื่องจาก หากขับเร็วเพียงอย่างเดียว ยางจะหมดก่อนจะครบ4ชั่วโมง จะทำให้หมดสิทธิ์ชนะทันที ทำให้ต้องคุมสมาธิ ต้องขับขี่ให้อยู่ในเขตที่ทีมกำหนด แต่ต้องไปให้ได้เร็วที่สุด ส่วนหนึ่งของความสำเร็จมากจากในช่วงแรกที่เจอกับฝนตก แต่ได้พีรพงษ์ ออกไปขับก่อน ซึ่งพีรพงษ์เป็นคนขับในสภาพถนนเปียกได้ดี ทำเวลาได้เร็วมาก ทำให้ช่วงท้ายซึ่งตนรับผิดชอบไม่ต้องแบกภาระมากจนเกินไป ทุกอย่างจึงออกมาดี แม้จะโดนทำโทษ แต่ก็ยังสามารถผ่านไปได้

นางสรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัทไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด เผยด้วยว่า สิ่งที่ยามาฮ่า ได้พยายามทำคือการให้การสนับสนุนนักแข่งให้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ โดยมีแผนงานที่ชัดเจนคือ การทำกิจกรรมนี้จะต้องทำพร้อมกันทั้งทีม เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยามาฮ่าต้องการสะท้อนจิตวิญญาณของการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตจริงได้ นั่นคือ จะต้องทำทุกอย่างอย่งเต็มที่ ไปจนจบช่วงเวลาของการแข่งขัน ซึ่งแม้จะเจออุปสัก ก็ห้ามท้อถอยเด็ดขาดจึงจะประสบความสำเร็จได้

สำหรับยามาฮ่าไทยแลนด์เรซซิ่งทีม มีกำหนดจะเดินทางไปแข่งขันรายการ เอเชีย โร้ดเรซซิ่ง อีกครั้งในวันที่ 13 สิงหาคม ณ ประเทศอินโดนีเซีย เป็นสนามที่4 จากทั้งหมด6 สนามโดยล่าสุดคะแนนสะสมของทีมไทย เป็นอันดับ 3 มีโอกาสที่จะลุ้นแชมป์ในรายการนี้เช่นกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน