นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ และวิทยาศาสตร์การกีฬา กล่าวว่า ประเด็นการจัดแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในปี 2019 นั้น หากมนตรีซีเกมส์มีความชัดเจนว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ยืนกรานไม่ขอเป็นเจ้าภาพตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้ คงจะต้องหารือกันโดยเร็ว ซึ่งการเลือกจังหวัดรับเป็นเจ้าภาพนั้นคงต้องดูตามความพร้อมของสนามแข่งขันที่มีอยู่ เนื่องจากช่วงเวลา 2 ปี คงไม่สามารถสร้างใหม่ได้ทัน แต่จะเลือกปรับปรุงสนามที่มีอยู่แล้วมากกว่า โดยต้องเป็นจังหวัดใหญ่สามารถรองรับการจัดการแข่งขันได้ 35-40 ชนิดกีฬา จังหวัดที่อยู่ในข่ายที่จะทำได้คือ สงขลา, นครราชสีมา, สุพรรณบุรี และชลบุรี ซึ่งการกีฬาแห่งประเทศไทย จะไปสำรวจสนามต่างๆอีกครั้งก่อนตัดสินใจ ในส่วนของอุบลราชธานีนั้นมีคนในจังหวัดตื่นตัวอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากทางจังหวัดวางแผนเป็นเจ้าภาพใน 8 ปีข้างหน้า ถ้าจะเร่งให้จัดภายใน 2 ปีนั้นเหมาะสมหรือเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน

สำหรับงบประมาณจัดการแข่งขันซีเกมส์นั้น หากเป็นเรื่องของการปรับปรุงสนาม และการจัดการต่างๆนั้นคาดว่าจะอยู่ราวๆ 800-900 ล้านบาท

“ในภาพรวมของอาเซียน ไทยคงไม่ปล่อยให้ซีเกมส์ดีเลย์ออกไป หรือทำให้การแข่งขันในอีก 2 ปีข้างหน้าถูกเว้นวรรคไป เรามีศักยภาพเพียงพอที่จะจัดการแข่งขันแน่นอน”รองผู้ว่าการการกีฬา กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน