การแข่งขันคริกเก็ต ชาย ประเภท โอเวอร์ 50 ที่สนามคินร่าร่า โอวัล ทีมชาติไทยลงสนามนัดที่ 2 พบมาเลเซีย เจ้าถิ่น โดยเกมนี้ยืดเยื้อตั้งแต่เช้าจรดเย็น โดยช่วงเช้าเริ่ม 09.00 น. มาเลเซีย เป็นฝ่ายบุกก่อนทำแต้มไป 265 รัน ซึ่งเกมจบในช่วง 12.00 น. พักเบรกให้นักกีฬารับประทานอาหาร ประกอบกับ ทีมชาติมาเลเซีย ทำพิธีกรรมทางศาสนา และเริ่มช่วงหลังในเวลา 14.30 น. ไทยพยายามตีคืน แต่ทำได้เพียง 105รัน จบเกมในเวลา 17.00 น.ไทย แพ้ไป 105-265 นายฐานันดร์ เมธีธรรมวัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม กล่าวว่า ไม่สามารถสู้มาเลเซียได้เลย ซึ่งเมื่อพ่ายแพ้ก็เหลืออีก 2 นัดกับ อินโดนีเซีย น่าจะผ่านได้ และคงจะต้องชิงเหรียญเงินกับสิงคโปร์ในนัดสุดท้าย อย่างไรก็ตามทีมค่อนข้างเจอปัญหาเพราะ เจ้าภาพส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจโด๊ปนักกีฬาเราทุกวัน ตั้งแต่วันซ้อม วันแข่งนัดแรก และนัดนี้ นักกีฬาโดนตรวจตัวอย่างปัสสาวะวันละ 2-3คน และกักตัวไว้นานถึง 3 ชม. เพราะบางคนก็ปัสสาวะไม่ออก ทั้งที่ชาติอื่นไม่โดน ด้านนพ.วารินทร์ ตัณฑ์ศุภศิริ หนึ่งในสามมนตรีซีเกมส์ชาวไทย เปิดเผยว่า จากการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการฝ่ายแพทย์และควบคุมสารต้องห้าม ในสหพันธ์กีฬาซีเกมส์ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียนั้น “เจ้าภาพ” มาเลเซีย ยืนยันกับทุกชาติว่า เจ้าภาพจะให้การดูแลเรื่องอาการบาดเจ็บ และเจ็บป่วยของนักกีฬาทุกชาติอย่างเต็มที่ในช่วงการแข่งขัน ส่วนเรื่องการดำเนินการควบคุมสารต้องห้ามในซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ก็มีความเข้มข้นเหมือนทุกๆ ครั้ง โดยเจ้าภาพไม่ได้ยืนยันว่าจะสุ่มตรวจตัวอย่างปัสสาวะ และเลือดของนักกีฬาที่ร่วมแข่งขันเป็นจำนวนเท่าใด แต่เป็นไปตามหลักการทั่วๆ ไปคือ 10 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนนักกีฬาที่ร่วมแข่งขัน สาเหตุที่ยังต้องเข้มงวดเรื่องนี้ต่อเนื่องเพราะ โทมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ชาวเยอรมนี ไม่ต้องการให้นักกีฬาทั่วโลกยุ่งเกี่ยวกับสารต้องห้ามอีกต่อไป โดยครั้งนี้ทางเจ้าภาพเลือกส่งตัวอย่างปัสสาวะและเลือดนักกีฬาไปตรวจที่ห้องแล็ปประเทศอินเดีย นพ.วารินทร์กล่าวต่อว่า ไม่ต้องการเห็นนักกีฬาไทยไม่ผ่านการตรวจสารต้องห้ามในซีเกมส์ โดยก่อนมาแข่งยืนยันได้เลยว่า ไม่พบว่านักกีฬาไทยไม่ผ่านการตรวจโด๊ป แต่เมื่อมาถึงเกมการแข่งขันแล้วไม่สามารถยืนยันได้ และเป็นเรื่องน่าหนักใจเหมือนกันสำหรับเรื่องนี้เพราะกลัวว่านักกีฬาไทยจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเมื่อ 2 ปีก่อนจนกระทบความหวังในการลุ้นเหรียญทอง สิ่งที่สำคัญที่สุดเวลานี้อยากเตือนนักกีฬาว่า เจ็บป่วยต้องปรึกษาแพทย์ประจำทีมเท่านั้น รวมถึงการเลือกใช้อาหารเสริมเพราะปัจจุบันอาหารเสริมต่างๆ มีตัวยาที่องค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (วาด้า) ประกาศเป็นโด๊ป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน