การแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ทีมชาย รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี นัดที่สาม ที่ สนาม เซลายาง สเตเดี้ยม กรุงกัวลาลัมเปอร์ ทีมชาติไทย พบ กัมพูชา
ผลงาน 2 นัดก่อนหน้านี้ ไทยเสมอ อินโดฯ 1-1 และชนะติมอร์ เลสเต 1-0 มี 4 คะแนน ส่วนกัมพูชา แพ้ 2 นัดรวด พ่ายฟิลิปปินส์ 0-2 และแพ้เวียดนาม 1-4 ยังไม่มีคะแนน
สำหรับรายชื่อนักเตะไทย 11 คนแรก ประกอบด้วย
“โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลทีมชาติไทย มีการปรับทัพ”ช้างศึก” โดย เจนรบ สำเภาดี กองหน้าตัวเก่งได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง
สำหรับรายชื่อนักเตะไทย 11 คนแรก ประกอบด้วย นนท์ ม่วงงาม (ผู้รักษาประตู),สุริยา สิงห์มุ้ย, ศฤงคาร พรมสุภะ, พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล, เชาว์วัตน์ วีระชาติ, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, พิชา อุทรา, ,เจนรบ สำเภาดี (กัปตันทีม) วรวุฒิ นามเวช, รัตนากร ใหม่คามิ, ชัยวัฒน์ บุราญ
เริ่มเกมการแข่งขันนักเตะกัมพูชาพยายามบุกกดดันสูง ทำให้ไทยออกบอลยาก
แต่นาทีที่ 3 พิชาหลุดไปยิง แต่ตรงตัวประตูทีมชาติกัมพูชา
จากนั้นนาทีที่ 8 รัตนากร ใหม่คามิซัดไกลเกือบ 30 หลา บอลหลุดกรอบออกไปอีก
ขณะที่กัมพูชามีโอกาสบ้าง นาทีที่ 14 เมื่อ ซเรง พลรอต ยิงไกลระยะ 25 หลา บอลตรงตัว นนท์ ม่วงงาม นายทวารทีมชาติไทย
นาทีถัดมา ทีมไทยบุกขึ้นมาทางด้านขวา พิชาเปิดบอลไปที่เสาสอง แต่ ชัยวัฒน์ บุราณ โหม่งไม่ตรงกรอบ
นักเตะกัมพูชาพยายามต่อบอลบุกสู้ทีมไทย นาทีที่ 23 นูน บอเรย์ กองหน้าของกัมพูชา ได้โขำกแต่ข้ามคาน
ทีมไทยต่อบอลบุกมากกว่า นาทีที่ 24 สุริยา มีโอกาสยิง แต่ตรงตัวอุม เสรี รัต นายทวารของทีมกัมพูชา
กระทั่งนาทีที่ 36 ทีมไทยได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ซเรง พล รอต กองกลางของกัมพูชาส่งบอลคืนหลังให้ผู้รักษาประตูเตะออกมา ขณะที่ พิชากระโดดบล็อก บอลหลุดมาเข้าทางก่อนจะยิงเข้าประตูโล่งๆ ไทยนำ 1-0
ไทยยังบุกดันหนัก ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เกิดเหตุชุลมุน เมื่อชัยวัฒน์เล่นนอกเกมเตะใส่ ฮอย พัลลิน กองกลางของกัมพูชา ระหว่างนั้น ซก ซัมนังกองหน้าอีกคนของกัมพูชาเข้ามาย่ำใส่ชัยวัฒน์ที่กำลังนอนอยู่กลางสนาม ผู้ตัดสินพยายามห้ามทัพ ก่อนจะแจกใบแดงให้ไล่ชัยวัฒน์ และ ซก ซัมนัง ออกจากสนาม ทำให้ทั้งสองทีมเหลือนักเตะ 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรก
ครึ่งหลัง ทีมไทยส่ง ศศลักษณ์ ไหประโคน กองกลางจากสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดลงมาทำเกม
นาทีที่ 50 ศศลักษณ์ได้โอกาสซัดไกล บอลตรงผู้รักษาประตูกัมพูชา
ขณะที่กัมพูชาพยายามโต้กลับ นาทีที่ 56 นูน บอเรย์ กองหน้ากัมพูชาหลุดไปยิงในเขตโทษ แต่นนท์ ม่วงงาม นายทวารทีมไทยปัดไว้ได้
อีก 2 นาทีต่อมา ศศลักษณ์ที่โชว์ฟอร์มได้พลิ้ว ได้ซัดอีกครั้ง บอลข้ามคาน
นักเตะไทยยังครองบอลบุกหนักกว่า นาทีที่ 60 วรชิตส่องไกล แต่นายทวารกัมพูชาปัดไว้ได้
นาทีที่ 63 ไทยเปลี่ยนตัวอีกคน ถอด วรชิตออก และส่ง ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา กองกลางจากสโมสรราชบุรี มิตรผล ลงแทน
เกมของไทยยังเหนือกว่า นาทีที่ 67 ณัฐวุฒิมีโอกาสยิงไกล แต่บอลไม่เข้ากรอบ จากนั้นนาทีที่ 70 วรวุฒิ นามเวช ขึ้นมาโขกในกรอบเขตโทษ แต่บอลข้ามคาน
นาทีที่ 73 ไทยได้ประตูที่สอง เมื่อพิชาลากหลุดไปในเขตโทษด้านขวา ก่อนโดน ซู วิศาล กองหลังกัปตันทีมของกัมพูลสกัดล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษ ณัฐวุฒิซัดเข้าประตูอย่างสวยงาม ไทยนำ 2-0
ไทยยังมีโอกาสอีก นาทีที่ 87 สุริยาไหลบอลให้ณัฐวุฒิซัดในกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเข้าประตูอย่างสวยงาม ให้ไทยนำห่าง 3-0
หลังจากนั้น ยิงเพิ่มไม่ได้ หมดเวลาการแข่งขันไทยชนะกัมพูชา 3-0 เก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ ลงเตะ 3 นัด มี 7 แต้ม ส่วนกัมพูชา แพ้รวด 3 นัด ตกรอบแล้ว
