ความเคลื่อนไหวฟุตซอลชายทีมชาติไทยหลังจากลงสนามนัดที่สองทำผลงานล็อกถล่ม พ่ายต่อ “อิเหนา” อินโดนีเซีย 2-4 ทำผลงานแข่ง 2 นัดมี 3 แต้ม ทำให้สถานการณ์ลุ้นเหรียญทองของไทย ยากลำบาก ร่วงลงไปอยู่อันดับ 3 ของตาราง ขณะที่ มาเลเซียนำจ่าฝูงมี 4 แต้ม และอินโดนีเซียอยู่อันดับ 2 เท่าไทยแต่แข่งไปเพียง 1 นัด ซึ่งกฏระเบียบของการแข่นขันจะนับคะแนนแบบลีก หากจะให้กลับมามีลุ้นคว้าเหรียญทอง อันดับแรก ทีมไทยต้องชนะรวดอีก 2 นัดที่เหลือ และ ลุ้นให้อินโดนีเซียแพ้ 1 นัดจากนั้นจะมาลุ้นประตูได้เสียกัน

 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ส.ค. โฆเซ่ มาเรีย ปาซอส เมนเดส หรือ “ปูลปิส” ปล่อยนักเตะพัก 1 วัน โดยโปรแกรมนัดต่อไปของทีมฟุตซอลชายทีมชาติไทย พบ เมียนมา วันศุกร์ที่ 25 ส.ค. ที่พานาโซนิค สเตเดี้ยม เวลาไทย 19.00 น.

 

รายงานข่าวแจ้งว่า บรรยากาศในทีมหลังจากแพ้ทีมอินโดนีเซียนั้นเป็นไปด้วยความเครียด ซึ่งตามปกตินักเตะจะหยอกล้อเล่นกันสนุกสนานทุกวัน แต่หลังจากแพ้พลิกล็อค ทำให้การหยอกล้อเล่นหยุดชะงักลงทันที ต่างคนต่างแยกย้ายขลุกอยู่ในห้องพัก ซึ่งตามโปรแกรมประจำวันนั้น ทางทีมจะยกพลเดินทางไปรีแล็กที่ตัวเมืองกัวลาลัมเปอร์ ชมตึกเปโตรนาส ซึ่งอยู่ห่างจาก ชาห์ อาลัม ที่พักราว 40 กม. แต่ทางนักเตะก็ขอยกเลิกโปรแกรมดังกล่าว เช่นเดียวกับทีมหญิง ซึ่งหลังจากเห็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับทีมชาย ต่างก็ยกเลิกโปรแกรมพักผ่อน โดยขอเปลี่ยนเป็นการฝึกซ้อมทุกวันแทน เพื่อไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดเหรียญทอง

“เจ้าอาร์ม” ศุภวุมิ เถื่อนกลาง ศูนย์หน้าตัวเก่งของไทย กล่าวว่า เรามานั่งวิเคราะห์พุดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกันว่า เป็นเพราะสาเหตุใดทีมจึงมาแพ้ อินโดนีเซียได้ โดยที่เราเพิ่งเป็นแชมป์เอเชียกันมา จะว่าเราใช้นักเตะใหม่เล่นก็ไม่ไช่ เพราะชุดที่เล่นซีเกมส์ก็เป็นชุดแชมป์เอเชียของ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ทั้งนี้ จุดที่พวกเรามอง ปัญหาน่าจะเกิดจากวิธีการเล่นมากกว่า โดยสไตล์ที่เราเล่นใน พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ในชิงแชมป์เอเชีย คือ เราเล่นแบบรัดกุม เล่นรับแล้วโต้ ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่อินโดนีเซียใช้กับเราในซีเกมส์ แต่ในซีเกมส์เราต้องเป็นฝ่ายเปิดเกมบุก เพื่อเอาประตู จึงโดนยุทธวิธีนี้กลับมาเล่นงาน มันก็ออกมาประมาณนี้ ตอนนี้ตนเข้าใจอารมณ์ของทีมอิหร่านแชมป์เอเชียเลยว่าเป็นยังไง เมื่อเจอกับทีมรองแล้วพลาดท่าแพ้ขึ้นมา มันก็จะคล้ายๆอย่างนี้

 

ด้าน “กัปตันช้าง”กฤษดา วงศ์แก้ว กล่าวว่า “เราทำการบ้านดูวิดิโอการเล่นของอินโดนีเซียมาเป็นอย่างดี แต่อินโดนีเซียก็แก้เรามาด้วยการเล่นริมเส้น โดยที่เรามาโคฟเวอร์ตัวเติมของเขาไม่ทัน เพราะเขากล้าเติมขึ้นมาแลกหมัด ขึ้นเติมครั้งละ 3 ตัว ตัวหลังขึ้นมาปิดไม่ทัน ตัวหน้าก็วิ่งลงมาปิดตัวไม่ถูก ทำให้เกิดปัญหานี้ แต่จริงๆแล้ว ปูลปิส ก็บอกให้แก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เรามาปิดตัวเติมกันช้าไป เป็นความผิดพลาดของเราเองในเกมนั้น ก็ยอมรับความผิดพลาดแต่โดยดีครับ”

สำหรับสถิติที่ ทีมสเกาท์ทีมชาติไทยทำไว้ในเกมที่ไทยพ่ายอินโดนีเซีย 2-4 ทีมไทยมีโอกาสยิงทั้งหมด 70 ครั้ง ทำได้ 2 ประตู ส่วน อินโดนีเซียยิง 11 ครั้งได้ 4 ประตู

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน