สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทยโอด งบประมาณจัดการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียจำนวน 25 .8 ล้านบาท ถูกการกีฬาแห่งประเทศไทย ปฎิเสธไม่ยอมจ่ายให้ ทั้งที่ได้รับความเห็นชอบจากบอร์ดบริหารงบประมาณของกองทุนพันฒนากีฬาแห่งชาติ เรียบร้อยแล้ว ย้ำหากล่าช้า สมาคมฯมีสิทธิ์ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหาย และเสียชื่อเสียงทั้งที่ทำงานเพื่อชาติ
จากกรณีที่ สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ได้รับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ยิมนาสติกชิงแชมป์เอเชียประเภทจูนียร์ ครั้งที่ 14 และ ประเภทซีเนียร์ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 16-21 พฤษภาคม 2560 ที่อาคารนิมิบุตร ภายในสนามกีฬาแห่งชาติ โดยมีนักกีฬายิมนาสติกศิลป์ จาก 25 ชาติเข้าร่วมทำการแข่งขัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการหยั่งเชิงคู่แข่งก่อนการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่ประเทศมาเลเซีย และเป็นการพัฒนายกศักยภาพนักกีฬายิมนาสติกของไทยให้เทียบชั้นใกล้เคียงกับนักกีฬาระดับชั้นนำของทวีปเอเชีย ซึ่งผลงานในภาพรวมเป็นที่น่าพอใจนักกีฬาไทยอยู่อันดับต้น ๆ ของเอเชีย อีกทั้งยังได้รับคำชมจากชาติสมาชิกว่าจัดได้ดีเกินคาด
อย่างไรก็ตามในส่วนของงบประมาณจัดการแข่งขัน ทางสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ที่ไม่เคยขอซื้ออุปกรณ์ใหม่มาเป็นเวลา 20 ปีแล้ว จึงจำเป็นต้องทำเรื่องขออนุมัติงบประมาณซื้ออุปกรณ์ใหม่จำนวน 2 ชุด ๆ ละ 12.9 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 25.8 ล้านบาท โดยในครั้งนั้นที่ประชุมบอร์ดบริหารกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ โดยมี พล.อ.ธนศักดิ์ ปฎิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้เห็นชอบและอนุมัติงบประมาณของกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติให้ สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ซื้ออุปกรณ์ชุดใหม่จำนวน 2 ชุด
ทั้งนี้เพื่อเป็นการสอดคล้องกับกฏระเบียบของสหพันธ์ยิมนาสติกแห่งเอเชีย ที่ต้องมีอุปกรณ์ทันสมัย สามารถป้องกันการบาดเจ็บของนักกีฬาได้เป็นอย่างดี ทำให้ สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทยจึงได้สั่งบริษัทที่รับผิดชอบนำเข้ามาทางเรือตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และมาถึงเมืองไทยเมื่อต้นพฤษภาคมที่ผ่านมา
จนถึงวันนี้เงินค่าอุปกรณ์แข่งขันที่ทางสมาคมฯสั่งนำเข้ามายังไม่สามารถเคลียร์ให้กับบริษัทนำเข้าตามสัญญา เนื่องจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ไม่ยอมเซ็นเบิกจ่ายให้กับสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทยโดยอ้างว่า ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย มีอำนาจเซ็นอนุมัติงบประมาณได้ไม่เกิน 25 ล้านบาท จึงทำให้สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทยเดือดร้อน และมีสิทธิ์ถูกบริษัทเอกชนที่นำเข้าอุปกรณ์แข่งขันฟัองร้องได้
น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การแข่งขันผ่านพ้นไป 3 เดือนแล้ว ทางสมาคมฯได้ทำหนังสือทวงถามค่าอุปกรณ์ฯ จากการกีฬาแห่งประเทศไทย หน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบเงินกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ซึ่งเป็นเงินจากภาษีเหล้าและบุหรี่ ที่รัฐบาลเจียดไว้ให้ทุกสมาคมกีฬาสำหรับการพัฒนานักกีฬาของไทยโดยเฉพาะ และเมื่อทางสมาคมฯได้ติดตามเรื่องเพื่อขอเบิกเงินจำนวนดังกล่าวอย่างถูกขั้นตอน กลับถูกบ่ายเบี่ยงตลอดมา ขณะที่ทางบริษัทที่ได้สั่งอุปกรณ์นำเข้ามาจำนวน 25.8 ล้านบาท ก็ได้ยื่นเรื่องขอเบิกอย่างเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทยขอความเห็นใจให้ผู้รับผิดชอบเงินกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติช่วยดำเนินการให้ด้วย มิเช่นนั้นสมาคมอาจจะตกเป็นจำเลยถูกฟ้องร้องทางคดีแพ่ง และนำมาสู่การสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงทั้งสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย และ การกีฬาแห่งประเทศไทยในเวลาเดียวกันอีกด้วย
