ศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป นัดที่ 9 ซึ่งเป็นนัดรองสุดท้าย เมื่อวันที่ 7 ต.ค. กลุ่ม เอ ทีมบัลแกเรีย เปิดบ้านต้อนรับทีม”ตราไก่”ฝรั่งเศส รองแชมป์ ยูโร 2016 ลูกทีมของดิดิเยร์ เดสชองป์ส
เกมนี้ฝรั่งเศส ส่ง 3 แนวรุกลงล่าตาข่าย นำทัพโดย อองตวน กรีซมันน์, คีลิย็อง เอ็มบัปเป และ อเล็กซานเดร ลากาแซตต์
ส่วนเจ้าบ้าน มี สปาส เดเลฟ ทำเกมรุกให้ อังเดรย์ กาลาบินอฟ ล่าตาข่าย

เริ่มเกมได้เพียง 3 นาที ฝรั่งเศสก็พังประตูนำก่อน จาก จังหวะที่ กรีซมันน์จ่ายบอลเข้าไปในเขตโทษให้แบลส มาตุยดี กองกลางจากทีมยูเวนตุสกระชากหนีกองหลังบัลแกเรีย 1 จังหวะ ก่อนซัดด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งเสียบตาข่าย
ฝรั่งเศสนำ 1-0

แบลส มาตุยดีดีใจหลังพังประตูให้ฝรั่งเศส (REUTERS/Stringer)

จากนั้นทัพตราไก่ต่อบอลบดใส่เจ้าถิ่นเป็นระลอก นาทีที่ 15 เอ็มบัปเปกระชากขึ้นมาทางริมเส้นด้านซ้าย แล้วตะบันเต็มเท้า แต่นายทวารของบัลแกเรียปัดไว้ได้
นาทีที่ 19 ทาลิสโกยิงไกลบอลเฉี่ยวเสา
นาทีที่ 28 กรีซมันน์มีจังหวะใช้อกพักบอลลงก่อนจะซัดด้วยเท้าซ้าย บอลเฉี่ยวเสา อีกนาทีต่อมา ลากาแซตต์สับไกยิงหน้ากรอบเขตโทษ แต่นักเตะเจ้าถิ่นสกัดไว้ได้ทัน

กรีซมันน์วอลเลย์ด้วยเท้าซ้าย (REUTERS/Stoyan Nenov)

นาทีที่ 38 บัลแกเรียมีลุ้นตีเสมอ จากซิเมออน สลาฟเชฟได้โหม่งในกรอบเขตโทษ แต่อูโก ยอริสปัดไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ
ท้ายเกมครึ่งแรกยิงเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรก ฝรั่งเศสนำ 1-0

ครึ่งหลัง เจ้าถิ่นบุกได้มากกว่า ครองบอลได้มากกว่า แต่จังหวะสุดท้ายไม่เด็ดขาด

ขณะที่ฝรั่งเศส มีลุ้นหลายครั้ง ทั้งจากอองตวน กรีซมันน์, ลากาแซตต์ แต่ยิงเพิ่มไม่ได้ จบเกม ฝรั่งเศส บุกชนะ 1-0 เก็บ 3 แต้ม ครองจ่าฝูงต่อไป เตะ 9 นัด มี 20 แต้ม

ด้านสวีเดน เปิดบ้าน ถล่ม ลักเซมเบิร์ก 8-0 ได้ประตู จากมาร์คุส เบิร์ก ทำแฮตทริก เหมา 4 ลูกนาทีที่ 18, 37, 54 และ 71 แยสเปอร์ กรานควิสต์ ยิงจุดโทษ 2 ลูก นาทีที่ 10 และ 67 มิคาเอล ลุสติก นาทีที่ 60 และ โอลา ตอยโวเนน นาทีที่ 76 สวีเดนเก็บ 3 แต้ม ขึ้นมาอยู่ที่ 2 ของกลุ่ม มี 19 แต้ม จาก 9 นัด

มาร์คุส เบิร์กยิงคนเดียว 4 ลูกในนัดนี้ให้สวีเดนถล่มลักเซมเบิร์ก 8-0 (AFP PHOTO / Jonathan NACKSTRAND)

ขณะที่ เนเธอร์แลนด์ บุกไปเยือน เบลารุส
เกมนี้ นักเตะดัตช์ได้ประตูนำก่อน จาก ดาวี่ ปร็อปเปอร์ นาทีที่ 24 จากนั้นมีโอกาสอีกหลายครั้ง แต่ครึ่งแรกยังยิงเพิ่มไม่ได้ นำ 1-0
ครึ่งหลัง เจ้าถิ่นต่อบอลบุกได้มากขึ้น กระทั่งนาทีที่ 55 มัคซิม โวลอดโก ตีเสมอได้
นาทีที่ 68 บาส ดอสต์ กองหน้าเนเธอร์แลนด์มีโอกาสซัดประตูในกรอบเขตโทษ แต่บอลข้ามคาน

ร็อบเบนยิงจุดโทษให้เนเธอร์แลนด์ขึ้นนำก่อนชนะ 3-1(REUTERS/Vasily Fedosenko)

แต่ช่วงท้ายเกม เนเธอร์แลนด์ได้ 2 ประตูรวด จาก อาร์เยน ร็อบเบนยิงจุดโทษ นาทีที่ 84 และ เมมฟิส เดอปาย นาทีสุดท้าย ช่วยให้เนเธอร์แลนด์บุกชนะ 3-1 เก็บ 3 แต้มได้ แต่ยังอยู่อันดับ 3 ของกลุ่ม มี 16 แต้ม จาก 9 นัด

 

กลุ่มบี
สวิตเซอร์แลนด์ จ่าฝูงของกลุ่ม ที่ชนะรวด 8 นัด เปิดบ้านต้อนรับ ฮังการี ทีมอันดับ 3 ที่มี 10 แต้ม ตกรอบไปแล้ว
ผลปรากฎว่า สวิตเซอร์แลนด์ต้อนชนะ 5-2 เก็บชัยชนะ 9 นัดรวด มี 27 แต้มเต็ม นำจ่าฝูงต่อไป

นักเตะสวิตเซอร์แลนด์ฉลองชัย( AFP PHOTO / Fabrice COFFRINI)

ด้านโปรตุเกส แชมป์ยูโร 2016 บุกถิ่น อันดอร์รา เกมนี้ คริสเตียโน โรนัลโด กองหน้ากัปตันทีมที่เพิ่งหายเจ็บ มีชื่อเป็นตัวสำรอง
สถานการณ์ก่อนเกม โปรตุเกสรั้งที่ 2 ของกลุ่ม มี 21 แต้ม จาก 8 นัด ตามหลังสวิตเซอร์แลนด์ จ่าฝูงที่ชนะรวด 8 นัด มี 24 แต้มเต็ม ทำให้โปรตุเกสต้องชนะเท่านั้นถึงจะมีลุ้นไปชิงดำกับสวิตเซอร์แลนด์

เกมครึ่งแรก โปรตุเกสเจาะแนวรับของเจ้าถิ่นอันดอร์ราไม่ได้ เสมอ 0-0
ครึ่งหลัง เฟอร์นันโด ซานโต๊ส กุนซือใหญ่ของโปรตุเกสส่งโรนัลโด ลงมา และนาทีที่ 63 โรนัลโดก็ซัดประตูให้ทัพฝอยทองขึ้นนำ

โรนัลโดยิงประตูแรก(REUTERS/Vincent West)

กระทั่งนาทีสุดท้าย แบร์นาร์โด ซิลวา ยิงย้ำชัยชนะ ให้โปรตุเกสชนะ อันดอร์รา 2-0 เก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ แต่ยังอยู่ที่ 2 มี 24 แต้ม จากการลงเตะ 9 นัดเท่ากัน โดยนัดสุดท้ายจะชิงแชมป์กลุ่มกับสวิตเซอร์แลนด์
เกาะแฟโร เสมอลัตเวีย 0-0

กลุ่มเอช
บอสเนีย แพ้ เบลเยียม 3-4

เอเดน อาซาร์ของเบลเยียมกระชากบอลหนีกองหลังบอสเนีย (REUTERS/Dado Ruvic)

ยิบรอลตาร์ แพ้ เอสโตเนีย 0-6

 

ไซปรัส แพ้ กรีซ 1-2

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน