ศึกฟุตบอลโลก โซนยุโรป รอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 9 ต.ค. กลุ่ม ดี “มังกรแดง” เวลส์ เปิดบ้านต้อนรับ”ยักษ์เขียว”ไอร์แลนด์ เกมนี้ทีมไหนชนะจะได้อันดับสองของกลุ่ม และตั๋วไปเล่นเพลย์ออฟ
เกมนี้ เวลส์ ไม่มีดาวดังอย่างแกเร็ธ เบล ที่บาดเจ็บ คริส โคลแมน กุนซือใหญ่ ส่งโจ อัลเลน อารอน แรมซีย์ ทำเกม ให้ ทอม ลอว์เรนซ์ ลากเลื้อย และ ฮัล ร็อบสัน คานู เป็นกองหน้าตัวเป้า
ด้าน ทีมเยือน ไอร์แลนด์ ของมาร์ติน โอนีล ส่ง ดาร์ริล เมอร์ฟี่ ลงล่าตาข่าย แดนกลางให้ เจมส์ แม็คลีน และร็อบบี้ เบรดี้ ทำเกมริมเส้น
ครึ่งแรก มังกรแดงครองเกมบุกมากกว่า แต่แนวรับของไอร์แลนด์ก็ช่วยกันต้านไว้ได้
นาทีที่ 24 เวลส์ มีโอกาสยิงจากลอว์เรนซ์ ซัดนอกกรอบเขตโทษ แต่ดาร์เรน แรนดอล์ฟ นายทวารของไอร์แลนด์รับไว้ได้
อารอน แรมซีย์ กองกลางของเวลส์ (AFP PHOTO / GEOFF CADDICK)
นาทีที่ 37 เวลส์ ต้องเปลี่ยนตัวคนแรก เมื่อโจ อัลเลน กองกลางตัวเก๋าโดนชนจนล้มกลางสนาม เมื่อปฐมพยาบาลเสร็จ ทีมแพทย์ระบุไม่สามารถเล่นต่อได้ คริส โคลแมน กุนซือส่งโจนาธาน วิลเลียมส์ลงแทน
นาทีที่ 43 ร็อบบี้ เบรดี้ ได้ยิงด้วยเท้าซ้าย แต่เวย์น เฮนเนสซี นายทวารเวลส์รับไว้ได้
นาทีที่ 51 เจมส์ เชสเตอร์ ได้โหม่งในกรอบเขตโทษ จากจังหวะเตะมุม บอลเฉี่ยวเสา
จากนั้นมีลุ้นอีกในนาทีที่ 53 โจนาธาน วิลเลียมส์ พาบอลมาถึงริมเส้นด้านขวา ก่อนจะเปิดมาในกรอบเขตโทษ ฮัล ร็อบสัน-คานูโขก แต่แรนดอล์ฟ นายทวารไอร์แลนด์ปัดไว้ได้
เวลส์ เจ้าถิ่นครองบอลมากกว่า แต่เจาะแนวรับของไอร์แลนด์ไม่ได้
นาทีที่ 57 แอชลีย์ วิลเลียมส์ กองหลังกัปตันทีมเวลส์สกัดบอลไม่ขาด โดนเจฟฟ์ เฮนดริกปั้มบอลได้ ก่อนลากเลื้อยริมเส้นด้านขวา จากนั้นเปิดเข้ากลาง เจมส์ แม็คลีนได้ซัดเต็มเท้าซ้าย บอลพุ่งเข้าตุงตาข่าย ไอร์แลนด์นำ 1-0
แม็คลีนยิงประตูชัยให้ไอร์แลนด์ (Reuters/John Sibley)
นาทีที่ 70 วิลเลียมส์ไหลบอลให้อารอน แรมซีย์ ยิงจากนอกกรอบเขตโทษ บอลข้ามคาน
ช่วงท้ายเกม เวลส์โหมบุกหนัก แต่ยิงไม่ได้ จบเกม ไอร์แลนด์ ชนะ 1-0 เก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ คว้าอันดับสองของกลุ่ม มี 19 แต้ม ได้สิทธิ์ไปเล่นรอบเพลย์ออฟ ส่วนเวลส์อยู่อันดับ 3 ของกลุ่ม มี 17 แต้ม ตกรอบ อย่างน่าเสียดาย
อีกคู่ เซอร์เบีย เบียดชนะจอร์เจีย 1-0 เก็บ 3 แต้ม มี 21 แต้ม ครองแชมป์กลุ่ม พร้อมกับสิทธิ์เข้ารอบสุดท้าย โดยอัตโนมัติ
ออสเตรีย ชนะ มอลโดวา 1-0 ตกรอบทั้งคู่
ส่วนกลุ่ม จี
“กระทิงดุ”สเปน ซึ่งคว้าตั๋วไปบอลโลก 2018 แล้ว บุกชนะอิสราเอล 1-0 เก็บ 3 แต้ม มี 28 แต้ม
เซร์คิโอ บุนเก็ตส์ กองกลางสเปน (AFP PHOTO / JACK GUEZ)
ด้านอิตาลี คืนฟอร์มบุกชนะ แอลเบเนีย 1-0 เก็บ 3 คะแนน ได้อันดับ 2 ของกลุ่ม มี 23 แต้ม จาก 10 นัด ได้สิทธิ์ไปเตะเพลย์ออฟ
อีกคู่ มาซิโดเนีย ชนะ ลิชเท่นสไตน์ 4-0 แต่ตกรอบทั้งคู่
อิตาลีฉลองหลังบุกชนะอิสราเอล คว้าตั๋วเพลย์ออฟ( REUTERS/Max Rossi)
กลุ่ม ไอ ไอซ์แลนด์สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ครั้งแรก หลังจากเปิดบ้านชนะ โคโซโว 2-0 ได้ประตูจาก กิลฟี่ ซิกกูร์ดส์สัน นาทีที่ 40 และ โยฮันน์ เบิร์ก กุดมุนด์สัน นาทีที่ 68 เก็บ 3 คะแนน ครองแชมป์กลุ่ม มี 22 คะแนน จาก 10 นัด
กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน เสื้อน้ำเงินยิงประตูแรกให้ไอซ์แลนด์ชนะโคโซโว 2-0 คว้าแชมป์กลุ่ม พร้อมสิทธิ์ไปเตะบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งแรกของประเทศ (AFP PHOTO / Haraldur Gudjonsson)
ส่วนโครเอเชีย ที่เพิ่งเปลี่ยนโค้ช โดยให้สลัตโก ดาลิช มาคุมแทน อันเต ซาซิช ที่ถูกปลดเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คุมทีมนัดแรก นำทัพบุกชนะ ยูเครน 2-0 ได้ประตูจาก อังเดรจ ครามาริช คนเดียว 2 ลูก นาทีที่ 62 และ 70 เก็บ 3 แต้ม เตะ 10 นัด มี 20 คะแนน พร้อมกับคว้าสิทธิ์ไปเตะเพลย์ออฟในฐานะอันดับสองดีที่สุด 1 ใน 8 ทีม
โครเอเชียฉลองหลังชนะยูเครน คว้าตั๋วเพลย์ออฟ (REUTERS/Valentyn Ogirenko)
ส่วนอีกคู่ ฟินแลนด์ เสมอ ตุรกี 2-2 แบ่งทีมละแต้ม แต่ตกรอบทั้งคู่
สรุปทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้แล้วมีทั้งหมด 17 ทีม
ตัวแทนจากยุโรป ประกอบด้วย เบลเยียม อังกฤษ เยอรมนี สเปน โปแลนด์ เซอร์เบีย ไอซ์แลนด์ และรัสเซียในฐานะเจ้าภาพ
แอฟริกา -อียิปต์ ไนจีเรีย
เอเชีย- อิหร่าน ญี่ปุ่น ซาอุดิอาระเบีย และ เกาหลีใต้
อเมริกาใต้- บราซิล
คอนคาเคฟ- เม็กซิโก และคอสตาริกา
ยังเหลืออีก 15 ทีม
