ความคืบหน้าความพร้อม 2 นักชก”ตำนานย้อนยุคยอดมวยไทย” ระหว่าง “แซมซั่น” แสนเมืองน้อย ลูกเจ้าพ่อมเหศักดิ์ กับ”พระกาฬหน้าขรึม” วีระพล สหพรหม (นครหลวงโปรโมชั่น) อดีตสองยอดมวยไทยและอดีตแชมเปี้ยนโลก ซึ่งจะโคจรกลับมาชกกัน ในศึกเพชรยินดีที่เวทีราชดำเนิน วันพุธที่ 27 ธันวาคม 2560
ล่าสุดเมื่อ 17 ต.ค. รายงานข่าวจาก “สวนอาหารบ้านแชมป์โลก” จ.ชัยภูมิ ร้านของ วีระพล และครอบครัว โดยวีระพลเผยถึง การเตรียมพร้อมสำหรับการชกครั้งนี้ว่า “ผมเริ่มซ้อมมาได้สิบกว่าวันแล้ว ออกวิ่งทั้งเช้าเย็นเพื่อปรับสภาพร่างกายและเข้าฟิตเน็ตที่โรงยิมในตัวเมืองชัยภูมิ ที่นี่มีเด็กๆมาซ้อมมวยกันเป็นปกติ และเป็นโรงฟิตเนตที่มีอุปกรณ์การซ้อมมวยทันสมัยครบเครื่อง ไม่มีปัญหาแน่สำหรับการเตรียมตัว”
อดีตแชมป์ 118 ปอนด์ สภามวยโลก WBC กล่าวอีกว่า “ต้องขอชื่นชมทางน้องโบ๊ท (ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์) โปรโมเตอร์เค้าเตรียมการดีมาก นอกจากจะทำประกันชีวิตให้คนละสิบล้านบาทแล้ว ยังจะจัดให้มีการแถลงข่าวเป็นทางการในวันที่ 7 พ.ย.ที่กรุงเทพอีกด้วย รวมทั้งการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อเช็คความพร้อมทั้งคู่”
เมื่อถามถึงสภาพร่างกายในระยะปรับตัว “พระกาฬหน้าขรึม” วัย 49 ปี กล่าวว่า “พูดตามตรงตอนนี้ ร่างกายของเราทั้งสองก็ยังคงอ้วนท้วนอยู่ แต่น้ำหนักปกติ 67 กิโลกรัมอย่างผม แค่ลดลงชกในพิกัด 65 กิโลกรัม ไม่มีปัญหาแน่ เราทำได้อยู่แล้ว ตัวแซมซั่นเองอายุ 45 ปีก็ต้องลดเหมือนกัน”
“ส่วนเรื่องกำลังใจทางบ้าน ทั้งภรรยาและลูกๆทั้งสองคน น้องอาร์ม (นิติธรรม) ลูกชาย และ น้องเอิร์น (นวพร) ลูกสาว หลังปรึกษาหารือแล้ว ทุกคนบอกว่า แล้วแต่พ่อ เมื่อตัดสินใจจะกลับมาชก ก็พร้อมเป็นกำลังใจอย่างเต็มที่ การชกครั้งนี้ลูกชายของผมอาจจะเดินทางมาชมถึงขอบเวทีด้วย แม้ว่าตลอดชีวิตการชกมวยที่ผ่านมา ผมจะไม่เคยพาภรรยาและลูกเข้ามาดูผมชกเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะผมถือว่าเรามาทำงานจึงไม่อยากให้คนทางบ้านต้องเป็นกังวล แต่ทั้งหมดนี้ ขอยืนยันชัดเจนว่า ผมเต็มที่อย่างแน่นอน”
วีระพลกล่าวเสริมอีกว่า “วันที่ 27 ธันวาคมนี้ ยังจะมีแฟนคลับชาวญี่ปุ่นที่ทักทายกันมาทางออนไลน์มากมาย พวกเขาพร้อมจะรวมตัวกันไม่ต่ำกว่า 300 คนเพื่อบินมาเชียร์ผมชกกับแซมซั่นในครั้งนี้ด้วย ตลอดจนแฟนๆที่มาทานอาหารที่ร้านหลายคนสอบถามถึงเรื่องนี้ ผมยืนยันว่า ผมกับแซมซั่นชกกันจริงจังแน่นอน เราไม่มีการสมยอมหรือรู้กัน แบบชกเสร็จแล้วจะลงเอยเสมอกันแน่ ผมขอประกาศย้ำชัด ขอให้แฟนมวยวางใจได้ ถึงผมจะเลิกมวยมาแล้วหลายปี แต่เรื่องของสัญชาตญาณความเป็นนักสู้ และจิตสำนึกของวิชาชีพ ผมจะไม่หลอกต้มคนดูให้เสียความรู้สึกและเสียชื่อเสียงศักดิ์ศรีที่ผมสร้างมาตลอดชีวิตอย่างแน่นอน ขอให้แฟนๆวางใจได้”
