การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน กลุ่มเอช “ไก่เดือยทอง”ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ จากอังกฤษ ลงเล่นในสนามเวมบลีย์ รับการมาเยือนของ “ราชันชุดขาว”เรอัล มาดริด จากสเปน
เกมนี้เจ้าบ้านส่ง แฮร์รี เคน, เดเล อัลลี, คริสเตียน เอริกเซน ลงนำเกมรุก ส่วนทีมเยือนมี คริสเตียโน โรนัลโด, คาริม เบนเซมา, อิสโก เป็นตัวชูโรง
ครึ่งแรกเป็นสเปอร์สที่เข้าทำได้ดีกว่า กระทั่งนาที 27 ก็เจาะตาข่ายสำเร็จ จากการวางบอลลึกไปสุดเส้นหลังฝั่งขวา เควิน ทริปเปียร์ สปีดตามไปเปิดเข้ากลางให้ เดเล อัลลี ชาร์จเข้าไป “ไก่เดือยทอง” ผงาดนำ 1-0
จากนั้นมาดริดเริ่มตั้งตัวได้แล้วเปิดเกมบุกใส่บ้าง แต่จังหวะยิงประตูยังไม่เฉียบขาดพอ จบครึ่งแรกเป็นสเปอร์สที่นำอยู่ 1-0
ครึ่งหลังนาที 56 แฟนสเปอร์สได้เฮลั่นสนามอีกครั้ง เอริก ดายเออร์ จ่ายจากแดนตัวเองข้ามไปอีกฝั่งถึง เดเล อัลลี ได้บอลแล้วโชว์ลีลายึกยักหลอกกองหลังจนไปถึงเส้นเขตโทษ แล้วยิงแฉลบ เซร์คิโอ รามอส กระดอนพื้นเข้าไป สกอร์กลายเป็น 2-0
นาที 65 เจ้าถิ่นทิ้งห่าง 3-0 จังหวะสวนกลับเร็วทำงานอีกครั้ง แฮร์รี เคน สปีดจากครึ่งสนามไปรับลูกจ่ายแล้วแทงต่อให้ คริสเตียน เอริกเซน สอดมายิงผ่านนายทวารไม่เหลือ
นาที 80 มาดริดไล่ตามมาห่างๆ 1-3 มาร์เซโล โชว์ความขยันวิ่งตามไปถึงลูกที่เกือบจะออกหลังทางฝั่งซ้ายแล้วเปิดเข้าไป บอลขลุกขลิกกันเล็กน้อยก่อนเข้าทางปืน คริสเตียโน โรนัลโด ซัดตุงตาข่าย
จากนั้นไม่มีประตูเพิ่มอีก จบเกมสเปอร์สชนะไปอย่างสวยงาม 3-1
อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน “เสือเหลือง”โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จากเยอรมนี เสมออาโปเอล จากไซปรัส 1-1 เจ้าถิ่นนำก่อนจาก ราฟาเอล เกอร์เรโร นาที 29 แต่ทีมเยือนตีเสมอจาก มิกกาเอล โปเต นาที 51
สเปอร์สยังไร้พ่ายต่อไป เก็บเพิ่มเป็น 10 แต้มจาก 4 นัด นำจ่าฝูง พร้อมตีตั๋วสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว ด้านมาดริดมี 7 แต้ม ขออีก 2 แต้มจาก 2 เกมที่เหลือจะเข้ารอบเช่นกัน อันดับ 3 ดอร์ทมุนด์ 2 แต้ม อันดับ 4 อาโปเอล 2 แต้ม
(Reuters)
ด้านกลุ่มอี “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล จากอังกฤษ เปิดบ้านชนะมาริบอร์ จากสโลวีเนีย 3-0 เจ้าถิ่นได้จาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นาที 49, เอ็มเร ชน นาที 64, แดเนียล สเตอร์ริดจ์ นาที 90 แถมยังเกือบได้อีกประตู เจมส์ มิลเนอร์ ยิงจุดโทษพลาดนาที 53
ผลอีกคู่ เซบีญา จากสเปน ชนะสปาร์ตัก มอสโก จากรัสเซีย 2-1 เจ้าถิ่นได้จาก เกลม็องต์ ล็องเลต์ นาที 30, เอแวร์ บาเนกา นาที 59 ส่วนทีมเยือนได้จาก เซ ลุยส์ นาที 78
ลิเวอร์พูลนำจ่าฝูง 8 แต้มจาก 4 นัด รับประกันตั๋วยูฟ่า ยูโรปา ลีก เป็นอย่างน้อยแล้ว อันดับ 2 เซบีญา 7 แต้ม อันดับ 3 สปาร์ตัก 5 แต้ม อันดับ 4 มาริบอร์ 1 แต้ม
(Reuters)
กลุ่มเอฟ “อัซซูรา”นาโปลี พ่ายให้กับ “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากอังกฤษ 2-4 ทีมเยือนได้จาก นิโกลัส โอตาเมนดี นาที 34, จอห์น สโตนส์ นาที 48, เซร์คิโอ อเกโร นาที 69, ราฮีม สเตอร์ลิง นาที 90 ส่วนเจ้าถิ่นได้จาก ลอเรนโซ อินซิเญ นาที 21, จอร์จินโญ นาที 62(จุดโทษ)
ผลอีกคู่ ชักตาร์ โดเน็ตส์ก จากยูเครน ชนะเฟเยนูร์ด จากเนเธอร์แลนด์ 3-1 เจ้าถิ่นได้จาก ฟาคุนโด เฟร์เรย์รา นาที 12, มาร์ลอส นาที 17 และ 68 ส่วนทีมเยือนได้จาก นิโคไล ยอร์เกนเซน นาที 12
แมนฯซิตี้ชนะรวด 4 นัด เก็บไป 12 คะแนนเต็ม นำจ่าฝูงพร้อมตีตั๋วสู่รอบต่อไปแน่นอนแล้ว อันดับ 2 ชักตาร์ 9 แต้ม รับประกันได้ไปยูโรปา ลีก เป็นอย่างน้อย อันดับ 3 นาโปลี 3 แต้ม อันดับ 4 เฟเยนูร์ด 0 แต้ม
(Reuters)
กลุ่มจี เบซิกตัส จากตุรกี เปิดรังเจ๊าโมนาโก จากฝรั่งเศส 1-1 ทีมเยือนนำก่อนจาก โรนี โลเปส นาที 45 แต่เจ้าถิ่นมาตีเสมอจาก เชงค์ โทซุน นาที 54(จุดโทษ)
ผลอีกคู่ ปอร์โต จากโปรตุเกส ชนะไลป์ซิก จากเยอรมนี 3-1 เจ้าบ้านได้จาก เอ็กตอร์ เอร์เรรา นาที 13, ดานิโล เปเรยรา นาที 61, มักซิมิลิอาโน เปเรยรา นาที 90 ส่วนทีมเยือนได้จาก ติโม แวร์เนอร์ นาที 48
เบซิกตัสยังรักษาสถิติไร้พ่ายต่อไป เก็บไปแล้ว 10 แต้มจาก 4 นัด นำจ่าฝูงพร้อมรับประกันได้ไปยูโรปา ลีก เป็นอย่างน้อย อันดับ 2 ปอร์โต 6 แต้ม อันดับ 3 ไลป์ซิก 4 แต้ม อันดับ 4 โมนาโก 2 แต้ม
