การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนแอฟริกา เมื่อวันที่ 11 พ.ย. เป็นการแข่งขันในรอบสาม กลุ่ม ซี นัดสุดท้าย ทีม “ช้างดำ” ไอวอรีโคสต์ วืดตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายที่รัสเซีย หลังเปิดบ้านพ่าย โมร็อกโก 0-2 ส่งผลให้ โมร็อกโก คว้าแชมป์กลุ่ม และได้หวนคืนสู่รายการเวิลด์ คัพ อีกครั้ง

สถานการณ์ก่อนเกมนี้ โมร็อกโก ต้องการแค่ผลเสมอก็จะได้การันตีไปเล่นรอบสุดท้ายที่รัสเซียทันที ส่วน ไอวอรีโคสต์ จำเป็นต้องเก็บ 3 แต้ม เท่านั้น

อย่างไรก็ตามสุดท้ายกลายเป็น โมร็อกโก ที่ทำสำเร็จ บุกไปชนะ ไอวอรีโคสต์ 2-0 ได้ประตูจาก นาบิล ดิราร์ นาที 25 และ เมดี เบนาเตีย นาที 30

ทำให้ โมร็อกโก เก็บเพิ่มเป็น 12 แต้ม จาก 6 นัด ไม่เสียแม้แต่ประตูเดียวในรอบนี้ ซิวแชมป์กลุ่ม และได้โควต้าไปเล่นรอบสุดท้าย ส่วน ไอวอรีโคสต์ มี 8 แต้ม ได้แค่อันดับ 2

ทั้งนี้ถือเป็นการกลับไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในรอบ 20 ปีของ โมร็อกโก หลังจากครั้งสุดท้ายที่พวกเขาได้ไปร่วมชิงชัยเกิดขึ้นเมื่อปี 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส

ผลอีกคู่ในกลุ่มนี้ กาบอง เสมอ มาลี 0-0

ส่วนกลุ่ม บี แอลจีเรีย เสมอ ไนจีเรีย 1-1, แซมเบีย เสมอ แคเมอรูน 2-2 กลุ่มนี้ ไนจีเรีย เป็นแชมป์กลุ่ม มี 14 แต้ม จาก 6 นัด

ขณะที่กลุ่ม เอ ตูนีเซีย คว้าตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายแบบหวุดหวิด หลังมีแต้มห่างจาก ดีอาร์ คองโก อันดับ 2 แค่ 1 แต้ม

โดยผลการแข่งขันในกลุ่มนี้ ดีอาร์คองโก ชนะ กีนี 3-1 ส่วน ตูนีเซีย เสมอ ลิเบีย 0-0 ทำให้ ตูนีเซีย มี 14 แต้มจาก 6 นัด ส่วน ดีอาร์คองโก มีแค่ 13 แต้ม

ขณะที่รอบคัดเลือก รอบเพลย์ออฟ โซนยุโรป ในวันเดียวกัน ทีม “โคนม” เดมาร์ก เปิดบ้านรับ ทีม “ยักษ์เขียว” ไอร์แลนด์ ซึ่งผลปรากฏว่าทั้งสองทีมไม่สามารถยิงประตูกันได้ เสมอกันไป 0-0 ก่อนจะโยกไปเตะที่บ้านของไอร์แลนด์ ในนัดที่สอง วันที่ 14 พ.ย. นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน