จากกรณีที่มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า “ไม่ชอบก็ข้ามไป” โพสต์คลิป ปรากฏบุคคลคล้าย กุนซือดีกรีระดับไทยลีก กำลังใช้มือถือเข้าเว็บพนันฟุตบอล พร้อมแคปชั่นว่า “เพื่อนแฟนบอลไทย ส่งคลิปมาให้ดูในไลน์ โค้ชทีมบอลไทยลีกระหว่างคุมเกมการแข่งขัน แกเปิดเว็บพนันบอลไปด้วย อ้าวเฮ้ย แบบนี้ก็ได้หรอ คือไทยลีกเพิ่งเริ่มเฟื่องฟู แล้วจะมาทำให้แฟนบอลหมดศรัทธาเพราะเกี่ยวกับการพนันแบบลีกเพื่อนบ้านเนี่ยนะ” ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ ถึงการกระทำของบุคคลในคลิป
ขณะที่ “บิ๊กโจ” พาทิศ ศุภะพงษ์ โฆษกและรองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เผยว่า พอได้ทราบข่าวและมีคนเข้ามาถามบ้างเหมือนกันเกี่ยวกับกรณีนี้ แต่ต้องอธิบายให้เข้าใจ และแยกให้ชัดเจนก่อนระหว่างการ “พนันบอล” กับการ “ล้มบอล” สำหรับการ “พนันบอล” นั้น ในเมืองไทยเราเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมายอยู่แล้ว การที่มีนักเตะ โค้ช หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลเล่นพนันฟุตบอล ทางสมาคมฯไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่ง ก็มีกฏหมายรองรับจัดการอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นการ “ล้มบอล” จะเกี่ยวข้องกับสมาคมฯโดยตรง เราสามารถใช้ทั้งกฏของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า กฏขอสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี และพรบ.กีฬา ที่มีลงโทษได้
“ในต่างประเทศนั้นการพนันเป็นเรื่องที่ถูกกฏหมาย เขาจึงมีกฏห้ามไม่ให้นักกีฬา หรือผู้ที่เกี่ยวข้องเล่นการพนัน แต่ในประเทศไทยเรานั้นการพนัน ผิดกฏหมายอยู่แล้ว ดังนั้นสมาคมฯไม่ต้องทำอะไร ปล่อยให้เป็นเรื่องกฏหมาย แต่ถ้าสืบทราบว่าการกระทำของบุคคลในคลิปนั้น มีผลเชื่อมโยงไปถึงการล้มบอลด้วย ก็ต้องมีการลงโทษแน่นอน โดยสมาคมฯได้ประสานงานไปที่สโมสรต้นสังกัดของบุคคลในคลิป ให้ช่วยสอบสวน และขอความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของฟุตบอลลีกไทยด้วย ซึ่งเร็วๆนี้คงมีการเข้ามาคุยกันถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น” นายพาทิศ กล่าว
ล่าสุด “นุ่น” ชนิตา จันทรทรัพย์ ผู้จัดการทีมสโมสร แบงค็อก ยูไนเต็ด เผยว่า เบื้องต้นจากที่เห็นในคลิปเจ้าตัวมีการเข้าเว็บพนันดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้กดตกลงพนันบอลแต่อย่างใด ซึ่งจะเห็นได้ว่าคลิปมีการตัดต่อบางส่วน และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 สัปดาก่อนด้วย ขณะที่เจ้าตัวเองก็ยืนยันว่าไม่ได้กดพนัน เพียงแค่กำลังคุยเรื่องผลฟุตบอลบราซิล กับเพื่อนที่ต่างประเทศ จึงเข้าไปดูผลการแข่งขันเพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สโมสรคงต้องสอบสวนหาขอเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่นอน ไม่เพียงแค่บุคคลในคลิป แต่หากมีหลักฐานว่านักเตะ โค้ช หรือผู้ที่เกี่ยวข้องคนใดยุ่งเกี่ยวกับการพนัน หรือล้มบอล จะมีบทลงโทษแน่นอน
