สหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชีย หรือเอทีเอฟ ได้บอร์ดบริหารชุดใหม่ วาระ 2 ปี มี “บิ๊กเอ๋” กิตตน์สมบัติ เอื้อมมงคล นายกสมาคมกีฬาเทนนิสฯ ร่วมเป็นบอร์ดด้วย พร้อมรั้งตำแหน่ง รองประธานภูมิภาคอาเซียน ขณะที่ เอทีเอฟ ร่วมด้วยสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ หรือไอทีเอฟ มอบโล่ห์ประกาศเกียรติคุณให้ประเทศไทย ในฐานะที่ร่วมมือในการพัฒนากีฬาลูกสักหลาดอย่างต่อเนื่อง

สหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชีย (เอทีเอฟ) จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ค.ศ.2017 ณ กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 18-20พฤศจิกายน 2560 นายอานิล คานนา ประธานเอทีเอฟ เป็นประธานการประชุม โดยมี นายเดวิด ฮักเกอร์ตี้ ประธานสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ไอทีเอฟ) เข้าร่วมด้วย

รวมถึง “บิ๊กเอ๋” นายกิตตน์สมบัติ เอื้อมมงคล นายกสมาคมกีฬาเทนนิส ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เดินทางไปร่วมประชุม ซึ่งครั้งนี้มีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งบอร์ดบริหารชุดใหม่ หลังจากชุดเก่าหมดวาระลง

นายกิตตน์สมบัติ ซึ่งเดินทางกลับถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งในเอเชีย อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางกีฬาเทนนิสของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน และที่ผ่านมา ประเทศไทยมีโครงการ มีการจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการแข่งขันรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี

ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก และการจัดตั้งอคาเดมี ที่มีการเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ตลอด นอกจากนี้ยังมีการจัดอบรมโค้ชของอาเซียน และของเอเชียด้วย ทางเอทีเอฟจึงได้มอบโล่ห์ประกาศเกียรติคุณให้ประเทศไทย ซึ่งตนเป็นผู้รับมอบจากนายอานิล คันนา และนายเดวิด ฮักเกอร์ตี้ ในฐานะที่ประเทศไทยให้ความร่วมมือกับ เอทีเอฟ เป็นอย่างดี

การประชุมครั้งนี้มีหลายวาระ รวมถึงความคืบหน้าในการเตรียมจัดการแข่งขันกีฬาเทนนิส ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน ปี ค.ศ.2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม-9 สิงหาคม พ.ศ.2563 รวมถึงการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่กรุงจาการ์ต้า และเมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย ปี ค.ศ.2018 ระหว่างวันที่ 18 สิงหาคม-2 กันยายน พ.ศ.2561

บิ๊กเอ๋” กล่าวว่า การประชุมดำเนินมาถึงวาระสำคัญคือการเลือกตั้งบอร์ดบริหารชุดใหม่ ซึ่งมีประเทศต่างๆ ส่งชื่อผู้แทนเข้าชิงตำแหน่งทั้งหมด 18 คน และมีการเสนอชื่อตนรวมอยู่ในจำนวนนั้นด้วย แต่สามารถเลือกผู้แทนเข้ามาเป็นบอร์ดได้จำนวน 14 คนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นายอานิล คานนา ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า จาก 18 คน ที่ลงสมัครชิงตำแหน่ง ปรากฎว่า มีการถอนตัวออกไป 4 คน ทำให้อีก 14 คนที่เหลือได้เป็นบอร์ดบริหารเอทีเอฟชุดใหม่โดยอัตโนมัติ ซึ่งรวมถึงตนด้วย โดยที่ไม่ต้องมีการลงคะแนนเลือกตั้ง

หลังจากปิดการประชุมใหญ่ครั้งนี้แล้ว มีการเชิญบอร์ดชุดใหม่ร่วมประชุมนัดแรก ซึ่งที่ประชุมได้แจ้งว่าบอร์ดชุดนี้มีวาระบริหาร 2 ปี จากนั้นมีการแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆ และมีการแต่งตั้งให้ตนเป็นรองประธานเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากนั้นได้แจ้งว่าจะจัดการประชุมนัดต่อไปในเดือนมกราคม ปีหน้า ที่ประเทศกาตาร์ ในช่วงที่มีการแข่งขันเทนนิส รายการ กาตาร์ โอเพ่น 2018

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน