ฟุตบอลถ้วย “ช้าง เอฟเอคัพ 2017” รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามศุภชลาศัย ระหว่างทีม”กว่างโซ้ง”เชียงราย ยูไนเต็ด พบกับทีม”แข้งเทพ”แบงค็อก ยูไนเต็ด สองทีมใหญ่ในศึกโตโยต้า ไทยลีกพบกัน
เริ่มเกมเพียงนาทีที่ 6 “แข้งเทพ”แบงค็อก ยูไนเต็ด ขึ้นนำ“กว่างโซ้งมหาภัย” เชียงราย ยูไนเต็ด 1-0 จากปกเกล้า อนันต์
ขณะที่เชียงรายเจอข่าวร้ายอีกเมื่อเฟลิเป อเซเวโด เจ็บเล่นต่อไม่ไหว ถึงกับหลั่งน้ำตา ก่อนราฟาเอล โคเอลโญ ลงแทน
นาทีที่ 25 “กว่างโซ้งมหาภัย” ตามตีเสมอ 1-1 จากเอเวอร์ตัน กอนคาเวส
สองทีมแลกกันสนุก เข้ากันหนัก แต่ยิงเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรก เสมอ 1-1
เริ่มครึ่งหลัง ถึงนาที 57 โคเอลโญได้บอลกระฉอกชาร์จซ้ำให้เชียงราย ขึ้นนำบ้างเป็น 2-1
เกมยังสนุกเข้มข้น มีการตัดเกม เข้ากันหนัก ถึงนาทีที่ 70 “แข้งเทพ” เหลือ 10 คน เมื่อสถาพร แดงสี แบ๊กซ้ายโดนเหลืองที่สองเป็นใบแดง
ทว่าถัดมานาทีเดียว แบงค็อกกลับตีเสมอเหลือเชื่อ 2-2 จากลูกยิงเผาขน เจย์ซี จอห์น
จากนั้นนาที 79 วานเดอร์ หลุยส์ กลายเป็นฮีโร่เมื่อหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงโล่งๆ ให้กว่างโซ้งขึ้นนำอีกครั้ง 3-2
นาทีที่ 85 เชียงรายเหลือ 10 ตัวเช่นกัน เมื่อฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ โดน 2 ใบเหลืองเป็นใบแดงจากจังหวะทำฟาวล์ ปกเกล้า อนันต์
ถึงนาทีที่ 88 เกมยิ่งเดือด แบงค็อกเหลือ 9 ตัว ผู้ตัดสินให้เหลืองที่ 2 กับสรรวัชญ์ เดชมิตร จากจังหวะที่เตะบอลทิ้งอัดใส่ซุ้มม้านั่งสำรองสิงห์เชียงราย
ขณะที่เชียงราย 10 คนนำแบงค็อก 9 คน สกอร์ 3-2 สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายขึ้นอีก เมื่อถึงช่วงทดเจ็บ นาที 91 แบงค็อกเหลือ 8 คน เมื่อเอกชัย สำเร โดนใบแดงจากจังหวะไปเตะรวบวานเดอร์ หลุยส์ ล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่ลังเลให้ใบแดงด้วยและเป่าเป็นจุดโทษด้วย วานเดอร์ หลุยส์ ซัดจุดโทษเข้าไป ช่วยให้สิงห์ เชียงราย พลิกชนะแบงค็อกไปอย่างสนุกดุเดือด 4-2 ประตู คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ พร้อมกับรับเงินรางวัล 5 ล้านบาท
ถ้วยใบนี้สร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์แรกของสโมสรของเชียงราย หลังจากเพิ่งอกหักแพ้เมืองทอง ยูไนเต็ด 0-2 พลาดแชมป์โตโยต้า ลีก คัพ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
