เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ห้องประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคฯ “บิ๊กจา” พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะนายกสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย และประธานสหพันธ์ตะกร้อโลก เป็นประธานการแถลงข่าวการแข่งขันตะกร้อชิงแชมป์โลกชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 32 ประจำปี 2560 ระหว่างวันที่ 11-17 ธันวาคม ที่ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา โดยปีนี้มีนักกีฬาเข้าร่วมชิงชัยทั้งหมด 667 คนจาก 30 ประเทศ ประกอบด้วย ออสเตรเลีย, บังคลาเทศ, บราซิล, บรูไน, เบลเยียม, โคลัมเบีย, จีน, ไต้หวัน, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อินเดีย, อิหร่าน, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ลาว, มาเก๊า, มาเลเซีย, พม่า, เนปาล, นิวซีแลนด์, โอมาน, ปากีสถาน, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ศรีลังกา, สวิตเซอแลนด์, สหรัฐอเมริกา, เวียดนาม และไทย
พล.ต.จารึกกล่าวว่า ปีนี้เป็นครั้งแรกที่มีการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทาน รัชกาลที่ 10 และเป็นการจัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 32 ซึ่งการแข่งขันประเภททีมชุดชายที่ผ่านมา ทีมไทยเคยพลาดท่าแพ้ มาเลเซีย แค่ 2 ครั้งในครั้งที่ 2 และครั้งที่ 5 ก่อนครองแชมป์ได้ถึง 29 สมัย โดยการแข่งขันปีนี้จะแพ้ไม่ได้ และต้องคว้าแชมป์สมัยที่ 30 ให้ได้สถานเดียวเท่านั้น เพื่อรักษาถ้วยพระราชทานครั้งแรกของรัชกาลที่ 10 เอาไว้ให้ได้
พล.ต.จารึก กล่าวอีกว่า สืบเนื่องจากครั้งก่อนในประเภททีมชุดชาย รอบชิงชนะเลิศ มาเลเซียขอวอล์กเอาต์ เพราะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินของกรรมการ ทำให้ปีนี้หากทีมใดมีการประท้วง และขอวอล์กเอาต์อีกจะตัดออกจากคิงส์คัพไปเลย อย่างไรก็ตาม ปีนี้ได้นำระบบชาลเลนจ์ หรือภาพช้า เข้ามาเป็นตัวช่วยการตัดสินเป็นครั้งแรกเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และตัดปัญหาเรื่องวอล์กเอาต์ ประท้วงคำตัดสินของกรรมการ ซึ่งจะใช้เฉพาะคู่สำคัญในรอบชิงชนะเลิศ เพื่อให้การตัดสินไม่เป็นข้อกังขา และยุติธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายอีกด้วย
สำหรับการแข่งขันตะกร้อชิงแชมป์โลกชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 32 จะแบ่งออกเป็น 8 ประเภท ประกอบด้วย 1.ทีมชุดชาย (ถ้วยพระราชทาน) 2.ทีมชุดหญิง 3.ทีมเดี่ยวชาย 4.ทีมเดี่ยวหญิง 5.ทีมคู่ชาย 6.ทีมคู่หญิง 7.ตะกร้อสากลชาย และ 8.ตะกร้อสากลหญิง ซึ่งการแข่งขันมีการถ่ายทอดสดทางช่อง 3 เอชดี (หมายเลข 33) ยิงสด 6 แมตช์ในรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ ตั้งแต่วันที่ 15-17 ธันวาคมด้วย
