คืนวันพุธนี้ยังมีฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายให้ติดตาม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จ่าฝูงของกลุ่ม ต้อนรับสปาร์ตัก มอสโก จากรัสเซีย ขณะที่เซบีญา รองจ่าฝูงไปเยือนมาริบอร์ ด้าน นาโปลี บุกถิ่น เฟเยนูร์ด ส่วนไลป์ซิกดวลกับเบซิตัส ที่เข้ารอบแล้ว ขณะที่”เสือเหลือง”ดอร์ตมุนด์บุกถิ่น”ราชันชุดขาว”เรอัล มาดริด แชมป์เก่า ทีมไหนจะได้เข้ารอบ ต้องติดตาม
วันพุธที่ 6 ธ.ค.2560
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย
กลุ่ม อี
ลิเวอร์พูล-สปาร์ตัก มอสโก สองทีมที่มียังมีลุ้นเข้ารอบน็อกเอาต์ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จ่าฝูงของกลุ่ม มี 9 คะแนน จาก 5 นัด ส่วนสปาร์ตัก มอสโก ยอดทีมจากรัสเเซีย อยู่ที่ 3 มี 6 แต้ม จาก 5 นัด
ฟอร์มนัดล่าสุดในลีก ทั้งสองทีมต่างเก็บชัยชนะได้ โดยเจ้าบ้าน ลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน ฟอร์มกำลังเข้าฝัก ล่าสุดไล่ถล่มไบรตัน 5-1 ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ด้าน สปาร์ตัก ชนะ อาร์เซนอล ทูลา 1-0
ผลงานแรกเจอกันที่บ้านของสปาร์ตัก ปรากฎว่า เสมอ 1-1
สำหรับเกมนี้ หงส์แดงแค่เสมอก็จะได้เข้ารอบ ส่วน สปาร์ตักต้องชนะเท่านั้นถึงจะได้เข้ารอบ
ความพร้อมเกมนี้ ลิเวอร์พูลจะไม่มี โจเอล มาติป เซ็นเตอร์ชาวแคเมอรูนที่บาดเจ็บ ส่วนอดัม ลัลลานา ยังไม่ฟิตสมบูรณ์
ส่วนตัวอื่นพร้อมส่งแนวรุกอันตราย ทั้งโรแบร์โต ฟีร์มิโน, ซาดิโอ มาเน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ฟิลิปเป คูตินโญ, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์, โดมินิก โซลันเก, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์, มาร์โก กรูยิช, อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน
ขณะที่รักนาร์ คลาวาน, โจ โกเมซ 2 กองหลังที่มีอาการเจ็บก็ฟิตแล้ว พร้อมลงสนาม ประสานงานกับเดยัน ลอฟเรน,
เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล อาจพักนักเตะบางราย เพื่อเตรียมไว้เจอกับเอฟเวอร์ตั้น ศึกพรีเมียร์ ลีก วันอาทิตย์นี้ที่สนามแอนฟิลด์
หลุยส์ อาเดรียโน กองหน้าตัวเก่งของสปาร์ตัก (REUTERS/Andrey Volkov)
ด้านทีมเยือน สปาร์ตัก มอสโก จะขาดอาร์เต็ม ติโมเฟฟ, ยาโน อนานิตเซ, จอร์จี้ ติกิเยฟ และดิมิทรี กอมบาลอฟ ที่บาดเจ็บ แต่จะได้จอร์จี้ ติเกีย พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีม
ส่วนแนวรุกมีทั้ง หลุยส์ อาเดรียโน, อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ, มาริโอ ปาซาลิช, เปโดร โรชา, เดนิส กลูชาคอฟ, ควินซี โพรเมส
สถิติเจอกันทั้งสองทีม พบกันมา 3 นัด ลิเวอร์พูล ทำได้ดีกว่า ชนะ 2 นัด เสมอ 1 นัด
สปาร์ตัก มอสโก เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 เมื่อ 27 ก.ย.2017 สปาร์ตัก มอสโก แพ้ ลิเวอร์พูล 1-3 เมื่อ 22 ต.ค.2002 และ ลิเวอร์พูล ชนะ สปาร์ตัก มอสโก 5-0 เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2002
ลิเวอร์พูลเกมรุกคมจริงๆช่วงนี้ แต่เกมรับยังมีผิดพลาดให้เห็น ภาพรวมทั้งทีม อีกทั้งได้เล่นในบ้าน หงส์แดงน่าจะเก็บชัย พร้อมคว้าแชมป์กลุ่มได้
มาริบอร์-เซบีญา เจ้าถิ่นมี 2 แต้ม จาก 5 นัด ตกรอบไปแล้วขณะที่ เซบีญา ยอดทีมของสเปน รั้งรองจ่าฝูง มี 8 แต้ม จากการลงเตะเท่ากัน เกมนี้ หากชนะก็จะผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์แน่นอน
ศักยภาพเกมรุกของทีมเยือนเด็ดขาดกว่า มีสิทธิ์ทำได้ตามเป้า
กลุ่ม เอฟ
เฟเยนูร์ด-นาโปลี เจ้าถิ่น เฟเยนูร์ด ตกรอบไปแล้ว แพ้รวด 5 นัด ไม่มีคะแนน ส่วนนาโปลี อยู่ที่ 3 ของกลุ่ม มี 6 แต้ม จาก 5 นัด กำลังแย่งเข้ารอบกับชักตาร์ โดเน็ตส์ก
ทีมเยือน แข็งแกร่งมาก น่าบุกมาเก็บชัยได้
ชักตาร์ โดเน็ตส์ก-แมนฯซิตี้ เจ้าถิ่น รั้งรองจ่าฝูง มี 9 แต้ม ต้อนรับ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้ จ่าฝูงของกลุ่ม ที่ชนะรวด 5 นัด เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มไปแล้ว เกมนี้ เรือใบคงปรับทัพ ส่งตัวสำรองลงสนาม น่าจะทำให้ชักตาร์มีลุ้นเก็บ 3 แต้มได้
กลุ่ม จี
ไลป์ซิก-เบซิกตัส เจ้าบ้าน รองแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี ฤดูกาลที่แล้ว มี 7 แต้ม จาก 5 นัด กำลังแย่งเข้ารอบในฐานะอันดับสองของกลุ่มกับ ปอร์โต ของโปรตุเกส ที่มี 7แต้มเท่ากัน
ด้านเบซิกตัส เข้ารอบแล้ว ในฐานะแชมป์เก่า คงมีการปรับทัพ
ไลป์ซิกมุ่งมั่นกว่า อีกทั้งได้เล่นในถิ่นตัวเองแบบนี้ มีสิทธิ์เบียดเก็บชัย
ปอร์โต-โมนาโก เจ้าถิ่น ปอร์โต ยักษ์ใหญ่ของโปรตุเกสเจอโมนาโก บ๊วยของกลุ่ม มี 2 แต้ม ตกรอบไปแล้ว ยอดทีมของโปรตุเกสมุ่งมั่นกว่า คงได้ฉลองชัย
กลุ่มเอช
เรอัล มาดริด-ดอร์ทมุนด์ เจ้าถิ่น “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด แชมป์เก่าจากสเปน มี 10 แต้ม เข้ารอบไปแล้ว ส่วนทีมเยือน”เสือเหลือง”ดอร์ตมุนด์ จากเยอรมนี ที่มี 2แต้ม หมดสิทธิ์เข้ารอบน็อกเอาต์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกแล้ว เหลือได้ลุ้นแค่ไปเตะยูโรปา ลีก โดยจะต้องแย่งกับ อาโปเอล นิโคเซีย
เกมนี้ ซิเนอดีน ซีดาน กุนซือเรอัล มาดริดน่าจะส่งดาวรุ่งและตัวสำรองลงสนามบ้าง ส่วนทีมเยือนคงเน้นเต็มที่ น่าจะมีแต้มติดมือ
สเปอร์-อาโปเอล เจ้าบ้าน “ไก่เดือยทอง”สเปอร์ รั้งจ่าฝูง มี 13 แต้ม เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มแน่นอนแล้ว ส่วนทีมเยือนยังมีลุ้นไปเล่นยูโรปา ลีก
เกมนี้ สเปอร์น่าจะให้โอกาสตัวสำรองลงสัมผัสเกม แต่ศักยภาพก็ค่อนข้างเหนือกว่า มีสิทธิ์เบียดชนะได้
///
