สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) จับสลากแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลสโมสรเอเชีย “เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2018” เมื่อ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดย“ปราสาทสายฟ้า”บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก 2017 อยู่กลุ่มจี ร่วมกับ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ แชมป์ไชนีส ซูเปอร์ลีก 2017 คุมทีมโดย ฟาบิโอ คันนาวาโร อดีตกองหลังกัปตันทีมชาติอิตาลี ชุดแชมป์โลก 2006, เจจู ยูไนเต็ด รองแชมป์เค-ลีก เกาหลีใต้ และอีก 1 ทีมจากญี่ปุ่น ที่อาจจะเป็นอันดับ 3 เจลีก เซเรโซ โอซาก้า หรือแชมป์เอ็มเพอเรอร์สคัพ

นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ กล่าวภายหลังทราบผลการจับสลากว่า ถือเป็นสายที่หนักอยู่แล้ว เพราะมีแต่ยอดทีมของเอเชีย บุรีรัมย์จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด พยายามเข้ารอบ ส่วนเรื่องข้อมูลของคู่แข่งแต่ละทีม ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ เพราะเพิ่งปิดฤดูกาล แต่ละทีมคงมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นอยู่ไม่น้อย

ขณะที่อีก 2 ทีมไทย เล่นรอบเพลย์ออฟ รอบ 2 วันที่ 23 ม.ค. เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ ยะโฮร์ ดารุล ทะซิม จากมาเลเซีย ทีมที่บุกมาเขี่ย แบงค็อก ยูไนเต็ด ร่วงรอบนี้ เมื่อปีที่แล้ว ส่วน เชียงราย ยูไนเต็ด รอเปิดบ้านพบ บาหลี ยูไนเต็ด (อินโดนีเซีย) หรือแทมปิเนส โรเวอร์ส(สิงคโปร์) ส่วนเพลย์ออฟรอบ 3 ถ้า เมืองทองชนะ จะเจอทีมญี่ปุ่น, เชียงรายถ้าชนะ ต้องไปเยือน เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี จากจีน

นายเนวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า การคว้าแชมป์ไทยลีก 2017 ส่วนหนึ่งมาจากการกล้าดันดาวรุ่ง สู่ทีมชุดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น สุภโชค สารชาติ, อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ และ รัตนากร ใหม่คามิ ที่เติบโตมาจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อะคาเดมี โดยทีมปราสาทสายฟ้า ให้ความสำคัญกับอะคาเดมี เป็นอย่างมาก และตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายใน 5 ปี นอกจากผู้เล่นต่างชาติแล้ว ผู้เล่นที่จะขึ้นมาเล่นทีมใหญ่ จะต้องเป็นเด็กบุรีรัมย์ โดยการเกิด หรือเป็นเด็กที่มาจากบุรีรัมย์ อะคาเดมีเท่านั้น เพราะจากประสบการณ์เมื่อนำนักเตะที่อื่นมา จะมีปัญหาเรื่องวินัย

“แฟนบอลบุรีรัมย์ขอให้ทำใจเถอะว่าจะไม่เห็นผมซื้อบิ๊กเนมผู้เล่นไทยมาอยู่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีกแล้ว แต่ผมจะเอาเด็กจากบุรีรัมย์ อคาเดมี หรือลูกหลานบุรีรัมย์ ที่ไปประสบความสำเร็จไปอยู่ที่อื่นกลับมาเท่านั้น ซึ่งจะเป็นบิ๊กเนมหรือไม่บิ๊กเนมผมไม่รู้” นายเนวิน กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน