การแข่งขันเรือใบ ภูเก็ต คิงส์คัพ รีกัตต้า ครั้งที่ 31 วันที่สี่ ที่ทะเลภูเก็ต จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. สภาพอากาศพลิกผันลมเบากว่าสามวันแรก ทีมเรือใบใหญ่งัดเทคนิคขั้นเทพดวลกันแบบสูสี

หลังจากการแข่งขัน 3 วันแรก ลมแรงตลอด ส่วนการแข่งขันในวันที่ลมเบาส่งผลให้ทีมเรือใบใหญ่ต้องงัดเทคนิคมาใช้ และมีการเปลี่ยนตำแหน่งผู้นำหลายรุ่นซึ่งเพิ่มความตื่นเต้นไปอีก เนื่องจากวันพรุ่งนี้เป็นการแข่งขันวันสุดท้ายของเรือใบใหญ่ ขณะที่วันนี้การแข่งขันเรือใบเล็กรายการอินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้แข่งขันเสร็จสิ้นแล้ว โดยปีนี้มีทัพเรือใบเล็กเข้าร่วมแข่งขันมากถึง 71 ลำ มากที่สุดในประวัติศาสตร์งานภูเก็ตคิงส์คัพกัตต้า

หนึ่งในรุ่นการแข่งขันเรือใบใหญ่ที่กลุ่มผู้นำดวลกันอย่างสนุกสนานในวันนี้ คือรุ่นไออาร์ซี ซีโร่ เมื่อเรือทีมฮอลลีวู้ดของกัปตันเรย์ โรเบิร์ต สามารถแซงทีมเรือทีเอชเอ 72 ของกัปตันทอมและเควิน วิทคราฟท์ แชมป์เก่าของไทยได้ในรอบแรกของวัน แต่รอบต่อมา เรือทีเอชเอ 72 คืนฟอร์ม พลิกกลับชนะได้อีกครั้ง แต่ในรอบสุดท้ายของวัน เรือวินด์ซีเกอร์ของกัปตับเซราบ ซิงห์ จากสิงคโปร์ที่หวดเข้าเป็นที่ 1 แซงเรือของกัปตันเควินเข้าเส้นชัยเร็วกว่าเพียง 7 วินาทีเท่านั้น

กัปตันเควิน วิทคราฟท์ กล่าวว่า “การใช้กลวิธีที่ไม่เหมาะสมทำให้เราพลาดในรอบแรก เพราะเราเลือกเส้นทางผิดและต้องปรับใบเรือสะเปะสะปะไปหมด เมื่อพยายามกางใบเพื่อเปลี่ยนทิศทางเรือ กลับหันเรือใบอีกด้าน ทำให้ล้าหลังผู้นำและถูกเรือวินด์ซีเกอร์แซงไปได้ในวันนี้ เราชนะเพียงรอบที่ 2 ของวัน และเป็นอันดับ 2 ในวันนี้ แต่ก็พอใจ เพราะทีมของเขาทำงานกันได้ดีมากจริงๆ สมควรได้ตำแหน่งไปในวันนี้”

 

อีกหนึ่งรุ่นที่ขับเคี่ยวอย่างดุเดือดคือไออาร์ซี 1 โดยวันนี้จัดแข่ง 3 รอบซึ่งเรือคาราซูจากญี่ปุ่นพุ่งเข้าเส้นชัยไปได้ถึง 2 รอบ แต่พ่ายหนึ่งรอบให้แก่เรือฟูยินของกัปตันเดวิด ฟูลเลอร์ จากออสเตรเลีย ที่เฉือนชนะไปไม่กี่วินาที โดยลมเบา ในวันนี้ยังทำให้เรือที่ยังไม่มีผลงาน กลับตีตื้นขึ้นมาได้ในรุ่นไออาร์ซี 2 นั่นคือเรือกระบี่โบ้ทลากูนพิคโคโล่ ของกัปตันเจมส์ ดอว์นาร์ด จากสหราชอาณาจักร ไล่หลังทีมเรือกะตะร็อคส์ (มาดามบัตเตอร์ฟลาย) ของกัปตันปีเตอร์ ไดเออร์ จนชนะได้ในรอบที่ 8 แต่กัปตันปีเตอร์ ไดเออร์ พลิกกลับมาชนะไปได้ในรอบที่ 9 และ 10 อย่างดุเดือด

ขณะที่รุ่นพรีเมียร์ในวันนี้ แชมป์เก่าของไทยอย่างทีมเรือไพน์แปซิฟิกของกัปตันอิทธินัย ยิ่งศิริ ต้องผลัดกันแพ้ชนะอย่างลุ้นระทึกกับทีมเรือแอนตีพอดส์จากฮ่องกง เช่นเดียวกับทีมเรือของกัปตันฮานส์ ราห์มานน์ ที่ขับเคี่ยวชิงตำแหน่งผู้นำกับเรือของกัปตันจอห์น นิมแฮม อย่างคู่คี่สูสีในรุ่นไฟร์ฟลาย 850

จอห์น คอฟฟิน เจ้าของธุรกิจจาวา ยอช์ติ้ง ซึ่งมีเรือใบถึง 19 ลำและหลายลำอาจคว้าชัยในคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งนี้ กล่าวว่า “เราเข้าร่วมแข่งขันในรายการคิงส์คัพรีกัตต้าแล้วถึง 17 ครั้ง รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันเรือใบอันทรงเกียรติรายการนี้ โดยเราส่งเรือมายจูดี้ลงแข่งขันในรุ่นไออาร์ซี 2 เรือเอวาทีและเรือเมอร์เมดในรุ่นโมเดิร์นคลาสสิก และเรือทั้ง 4 ลำในรุ่นพัลซ์ 600 ซึ่งเป็นเรือที่ยกระดับมาจากเรือใบเล็กที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ปีนี้ต้องมาลงแข่งในสนามของเรือใบใหญ่ ทั้งยังพบกับลมแรงถึง 25 นอตในบางช่วง ถือว่าเกินกำลังพอสมควรเลยทีเดียว เราพยายามชักชวนให้เยาวชนไทยหันมาเล่นเรือใบเล็ก และยังให้การฝึกสอนเยาวชนจีนด้วยเช่นกัน เพราะมีสโมสรในเซี่ยงไฮ้สำหรับการเรียนหลักสูตรนานาชาติและอีกแห่งในจังหวัดกระบี่ สำหรับตัวผมเคยลงแข่งขันในรายการภูเก็ตคิงส์คัพมาแล้วในฐานะลูกเรือ

 

นอกจากนี้ เรายังมีเรือ เอเชีย คาตามารัน จาวา ที่ทำผลงานได้ดี และเรือมาส์ อัลเลเกอร์ ที่ใช้ลูกเรือชาวจีน ซึ่งเป็นเรือแบบคลาสสิกที่ออกแบบมานานกว่า 50 ปีแล้ว ส่วนเรื่องการแข่งขันนั้น คุณภาพและระดับความยากของสนามแข่งขันที่นี่ถือว่าเหลือเชื่อ ซึ่งนับเป็นเอกลักษณ์ของงานเรือใบภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าเลยทีเดียว”

https://www.youtube.com/watch? v=6BWq2kwZJy0&feature=youtu.be

สำหรับการแข่งขันเรือใบเล็กรายการอินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ ซึ่งสนับสนุนโดย บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ปิดฉากลงอย่างงดงามในวันนี้ซึ่งสร้างความสนุกสนานและลุ้นระทึกมากกว่าทุกปี ด้วยสภาพอากาศที่พลิกผันในวันสุดท้าย ทำให้บรรดานักกีฬาเรือใบเล็กต้องอาศัยความทรหดและเทคนิคมากมายเพื่อชิงความได้เปรียบจากคู่แข่งในการแข่งขัน โดยปีนี้มีเรือใบเล็กเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 71 ลำ และแบ่งการแข่งขันเป็นรุ่นต่าง ๆ ได้แก่ ออพติมิสต์ชายและหญิง, เลเซอร์ 4.7, เลเซอร์เรเดียล, เลเซอร์สแตนดาร์ด และ ท็อปเปอร์
สำหรับผู้ชนะการแข่งขันเรือใบเล็กรายการ “อินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้” คะแนนรวมประเภทต่างๆ มีดังนี้

เจตวีร์ ยงยืนนาน คว้าแชมป์ออพติมิสต์ชาย ส่วนอันดับ 2 พันวา บุนนาค และ อันดับ 3 ปาฏิหาริย์ วรศาสตร์

ส่วนออพติมิสต์หญิง พัชรี ศรีงาม คว้าแชมป์ ส่วนอันดับ 2 ปารวี แดงประทุม และอันดับ 3 สุชานรี เดชทศพล

รุ่นเลเซอร์ 4.7 สุธน แย้มพินิจ ได้แชมป์ ขณะที่ พัทธ์ธีรา มีอยู่สามเสน คว้าอันดับ 2 และ ปาลิกา พูนพัฒน์ ได้อันดับ 3

เลเซอร์เรเดียล พ.จ.อ.มนัส โพธิ์ทอง ได้แชมป์ ส่วนอันดับ 2 การ์ตูน จันทร์เดช และ อันดับ 3 พ.จ.อ.จักราวุธ แก้วอ่อน

เลเซอร์สแตนดาร์ด กีรติ บัวลง นักแล่นใบทีมชาติไทย คว้าแชมป์ ขณะที่ จ.อ.ชัยวัฒน์ แดงดีมาก ได้อันดับ 2 และ ธนกร แก้วล้วน อันดับ 3

ท็อปเปอร์ ณัฐพงศ์ ยวงงาม คว้าแชมป์ ส่วนอันดับ 2 ศราวุธ กุลเอก และอันดับ 3 เป็นของ ธนัยธร แมฟิโด

ประเภท เรือ 420 ธีรดา ฟักแก้ว และ ปิยาพร เข็มแก้ว คว้าแชมป์ ส่วน อันดับ 2 ชนาวีร์ คงพร้อม และ รัฐนันท์ รักษ์มณี และ อันดับ 3 อดิศักดิ์ กิ่งแก้ว และ กรรณชัย วงผดุง

ด้านกีรติ บัวลง แชมป์รุ่นเลเซอร์สแตนดาร์ด กล่าวถึงการแข่งขันในปีนี้ว่า “ในปีนี้ผมลงแข่งขันในรุ่นเลเซอร์สแตนดาร์ด ซึ่งเป็นเรือใบเล็กที่แตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ เพราะต้องใช้กำลังมากในการบังคับเรือ ทำให้นอกจากการฝึกเรื่องเทคนิคแล้ว ผมต้องฟิตซ้อมร่างกายมากเป็นพิเศษ เพื่อให้บังคับเรือและปรับทิศทางตามลมได้ และการแข่งขันในปีนี้ยิ่งสนุกมากขึ้น โดยเฉพาะวันสุดท้ายที่ลมเปลี่ยนทิศตลอดเวลา ซึ่งแตกต่างจาก 3 วันแรกที่ลมแรงมาต่อเนื่อง ในวันสุดท้ายลมมาเป็นจังหวะ ทำให้เราต้องไวในการจับทางลม และรู้จังหวะเพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขัน”

“ผมรู้สึกยินดีอย่างมากที่ได้มาร่วมแข่งขันในรายการภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าอีกครั้งในปีนี้ เพราะเป็นรายการที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาเรือใบเยาวชนไทยให้พร้อมสำหรับการแข่งขันบนเวทีระดับโลกได้เป็นอย่างดี และผมเชื่อมั่นว่า กีฬาเรือใบเล็กในเมืองไทยจะได้รับความนิยมเพิ่มากขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน” กีรติ กล่าว

ด้านน.อ.พรพรหม สกุลเต็ม ผู้อำนวยการแข่งขันอินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ กล่าวถึงความสำเร็จของการจัดการแข่งขันในปีนี้ว่า “การแข่งขันเรือใบเล็กในปีนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามตามความตั้งใจของคณะกรรมการจัดการแข่งขัน โดยเราเล็งเห็นว่างานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องในด้านเรือใบใหญ่และมีชื่อเสียงไปทั่วโลก แต่ยังต้องการให้คนไทยมาร่วมแข่งขันในเรือใบแบบคีลโบ้ทและมัลติฮัลล์กันให้มากกว่านี้ เพราะกว่า 90% ของลูกเรือเป็นชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย จึงคิดว่าทำอย่างไรจึงจะทำให้คนไทยหันมาเล่นเรือใบใหญ่มากกว่านี้และทำให้การแข่งขันสนุกสนานน่าติดตามมากขึ้น จึงย้อนกลับไปที่แนวคิดพื้นฐาน ตามแนวกระแสพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเรา ซึ่งทรงตรัสว่า จุดประสงค์ของการกีฬาเป็นการฝึกให้บุคคลและคณะมีความเข้มแข็ง จึงขอดำเนินรอยตามแนวทางนี้ของพระองค์ ด้วยการเริ่มต้นที่พื้นฐาน และเราได้สร้างโรงเรียนสอนการเล่นเรือใบขึ้นที่นี่เมื่อ 3 ปีที่แล้วและเข้าสู่ปีที่ 4 ในปีนี้ เมื่อ 4 ปีก่อนเรามีนักกีฬาเรือใบเพียง 20 คน ปัจจุบันเติบโตขึ้นจนมีจำนวนมากถึง 109 คน โดยนักกีฬาที่อายุน้อยที่สุดของเรา นวินดา วังแก้ว และ ชำนาญ ไตรภพ ถึงมีอายุเพียง 6 ปีเท่านั้น แต่ทั้งสองสามารถแล่นเรือใบต้านลม 20 นอตได้แล้ว”


“การแข่งขันเรือใบเล็กในงานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้านั้นมีจำนวนผู้เข้าแข่งขันและความนิยมไม่น้อยไปกว่าการแข่งขันเรือใบใหญ่ ทำให้ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องและสำเร็จดังเป้าหมายที่ตั้งไว้ เมื่อเร็วๆนี้ เรายังร่วมมือกับสโมสรในประเทศจีน ทำให้ในปีนี้มีนักกีฬาจากจีนเข้ามาร่วมแข่งขันในรุ่นออพติมิสต์ ขณะเดียวกันเราเคยส่งนักกีฬาเรือใบไปร่วมแข่งขันในเมืองชิงเต่า (ทางชายฝั่งทะเลตะวันออกของจีน) ด้วยเช่นกัน”

การแข่งขันเรือใบภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 31 ดำเนินการโดยคณะกรรมการจัดงานการแข่งขันเรือใบภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ภายใต้สโมสรเรือใบราชวรุณ และร้องขอการสนับสนุนจากกองทัพเรือ สมาคมแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย และจังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้สนับสนุน ได้แก่ กะตะกรุ๊ป รีสอร์ท ประเทศไทย, สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน