“ช้างศึกพลังหนุ่ม” ลงแข่งขันรายการพิเศษ เอ็ม-150 คัพ ที่ จ.บุรีรัมย์ นัดแรกเอาชนะญี่ปุ่น มาได้ 2-1 ก่อนจะเตะนัด 2 กับ เกาหลีเหนือ วันที่ 13 ธ.ค. โดย “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากที่ตนดูแมตช์แรก รูปเกมของทีมชาติไทยชุด 23 ปี โดยรวมยังไม่มีอะไรดีขึ้น ยกเว้นเกมรับ ที่ดูมีวินัยมากขึ้น ส่วนการบุก นักเตะเกมรุกยังตัดสินใจเองไม่ดี แก้ไขสถานการณ์ไม่ได้ การเอาชนะญี่ปุ่น ในนัดเปิดสนาม เพราะทีมซามูไร ไม่ได้ใช้ชุดที่ดีที่สุดแต่ใช้รุ่นอายุที่เตรียมไว้โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ นอกจากนี้ ผู้รักษาประตูก็พลาดให้ไทยบ่อยครั้ง
“ทีม 23 ปี ยังไม่มีอะไรดีขึ้นนัก ซึ่งในศึกชิงแชมป์เอเชีย ก็จะเป็นการตัดสินผลงานของ โซรัน ยานโควิช ด้วย หากทำผลงานได้ดี ก็จะได้คุมทีม 23 ปี ต่อไป แต่หากยังไม่มีอะไรดีขึ้น ก็ต้องเปลี่ยน แล้วอาจกลับไปเป็นผู้ช่วย มิโลวาน ราเยวัช ในทีมชุดใหญ่เหมือนเดิม”
นายวิทยา กล่าวด้วยว่า ตนต้องขอชื่นชม ราเยวัช ที่จะเดินทางไปจีน ช่วยดูแลทีม 23 ปี แข่งชิงแชมป์เอเชีย ในเดือน ม.ค.ปีหน้าด้วย ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่โดยตรง หลักๆ คงไปช่วยติวเกมรับ ซึ่ง ราเยวัช คงได้ไปดูนักเตะชุด 23 ปี ที่มีโอกาสขึ้นชุดใหญ่ ซึ่งเท่าที่ตนดู ก็มีในตำแหน่งกองกลาง กับริมเส้น ที่มีแววได้ไปต่อในทีมชุดใหญ่ ส่วนกองหน้ากับกองหลัง ถือว่าลำบาก
ประธานพัฒนาเทคนิคไทย ทิ้งท้ายด้วยว่า การแข่งขันเอ็ม-150 คัพครั้งนี้ไทยแทบจะไม่ได้ข้อมูลของคู่แข้งร่วมกลุ่มในศึกชิงแชมป์เอเชียทั้ง เกาหลีเหนือ และญี่ปุ่น เลย เพราะทั้ง 2 ชาติไม่ใช้นักเตะที่จะเล่นชิงแชมป์เอเชีย ตรงกันข้ามกับไทย ซึ่งโดนทีมงานญี่ปุ่นส่งแมวมองมาดูฟอร์มถึง 5 คน ดังนั้นญี่ปุ่นรู้ตื้นลึกหนาบางของไทยมากกว่า แม้จะไม่ได้ใส่แท็กติกในการแข่งขันที่ผ่านมามากมายอะไรนักแต่เรื่องสไตล์การเล่น รูปแบบการยืนของนักเตะไทย ตนเชื่อว่า ญี่ปุ่นได้ข้อมูลไปมากเลยทีเดียว
