การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 14 ม.ค. “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 4 เปิดบ้านรับ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้ จ่าฝูงที่ยังไม่แพ้ใครในลีกมา 22 นัด โดยเกมนี้ “หงส์แดง” ที่เพิ่งขายฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ดาวเตะคนสำคัญออกไป มีแต้มตามหลังซิตี้ 18 คะแนนยังไม่มีเวอร์กิล ฟาน ไดจ์ กองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลก เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เน้นปลอดภัยจึงพักเอาไว้ก่อน

และเพียงนาทีที่ 9 จังหวะยิงครั้งแรกของ “ลิเวอร์พูล” ได้ผลทันที อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ลากบอลขึ้นมาก่อนจะตั้งป้อมยิงดื้อๆบอลพุ่งผ่านมือ เอแดร์สัน เข้าไปอย่างสวยงามส่งหงส์แดงนำ 1-0 แมนฯซิตี้ เดินเกมรุกมากขึ้นหวังทวงคืน แต่แนวรับหงส์แดงยังแพ็ก อเกโร่ เอาไว้ไม่ให้เข้าทำได้สะดวกนัก หนำซ้ำนักเตะลิเวอร์พูลบีบเร็วในแผงกลาง ทำให้ เรือใบสีฟ้า ไม่สามารถปั้นเกมได้ถนัดนัก

กระทั่งนาที 40 ลีรอย ซาเน่ เลี้ยงกินตัวทำเองเข้าเขตโทษก่อนจะตัดเข้าซ้ายซัดเต็มข้อยัดเข้าเสาแรก หมดทางที่ คาริอุส จะป้องกันได้ตีเสมอให้แมนฯซิตี้ตามมาเป็น 1-1

เข้าสู่ครึ่งหลัง แมนฯซิตี้ ออกตัวได้ดีกว่า นิโคลาส โอตาเมนดี้ เติมขึ้นมาโขกในจังหวะเตะมุม บอลชนคานให้ได้เสียว ลิเวอร์พูลมีโต้ขึ้นมาบ้าง จากจังหวะเตะมุม กองหลังแมนฯซิตี้ เคลียร์บอลไม่ขาด โม ซาลาห์ ได้ยิงสวนตูมเดียว แต่ เอแดร์สัน พุ่งทุบออกไป

นาที 59 ลิเวอร์พูลออกนำอีกครั้ง โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ เบียดจอห์น สโตน จนเสียหลักก่อนจะตักบอลข้ามมือเอแดร์สัน เข้าไปอย่างสวยงาม หงส์แดงนำ 2-1 นาทีต่อมา ซาดิโอ มาเน่ ไม่ยอมน้อยหน้า ยิงบอลโค้งผ่านมือเอแดร์สันไปแล้ว แต่ชนเสาออกไป

ก่อนที่ซาเน่จะแก้ตัวได้สำเร็จในจังหวะถัดมา กองหลังแมนฯซิตี้ ผิดพลาด ปล่อยให้โม ซาลาห์ ฉกบอลไปได้ ก่อนจ่ายให้ ซาดิโอ มาเน่ กดด้วยซ้ายบอลเสียบสามเหลี่ยมนำห่าง 3-1

นาที 67 ในจังหวะบุกของลิเวอร์พูล เอแดร์สัน ออกมาตัดบอลนอกเขต แต่ไม่พ้นอันตราย โม ซาลาห์ ยิงสวนโครมเข้าไปให้หงส์แดงฉีกไปเป็น 4-1 หลังจากนั้นแมนฯซิตี้ พยายามเติมเกมทวงคืนได้ 1 ลูกจากเบอร์นาโด ซิลวา ไล่มาเป็น 2-4 ในนาที 83 เกมไม่จบลงง่ายๆ อิลคาย กุนโดกัน จิ้มบอลจ่อๆให้เรือใบไล่มาป็น 3-4 แต่ก็ยังไล่ไม่ทันจบ 90 นาที ลิเวอร์พูลชนะ 4-3 ยัดเยียดความปราชัยนัดแรกในลีกให้แมนฯซิตี้ หยุดสถิติไร้พ่ายไว้เพียง 22 นัด

โดยลิเวอร์พูลมีเพิ่มเป็น 47 แต้ม ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 3 แต้มเท่า “แมนฯยู” แต่แข่งมากกว่า 1 นัด โดยแมนฯยู มีิคิวเตะกับสโต๊ก ในคืนวันจันทร์ และหากแมนฯยู คว้าชัยจะทำให้ช่องว่างลดเหลือ 12 แต้ม

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน