ความคืบหน้าทีมฟุตบอลเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประสบความล้มเหลวในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ด้วยการทำผลงานแพ้รวด 3 นัดในรอบแรก ตกรอบอย่างน่าผิดหวังภายใต้การคุมทัพของ โซรัน ยานโควิช กุนซือชาวบัลแกเรีย ล่าสุดเมื่อ 23 ม.ค. ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ฝ่ายพัฒนาเทคนิคได้เรียกประชุมเพื่อฟังรายการของสต๊าฟโค้ชถึงปัญหาและการทำงาน โดยมี โซรัน เป็นผู้รายงาน

หลังการประชุม โซรัน กล่าวว่า “ทัวร์นาเมนต์นี้เราขาดตัวหลักหลายคน ที่ไม่ได้ไปเล่นที่จีน คิดว่าควรมีการสนับสนุนมากกว่านี้ เพราะบอลชิงแชมป์เอเชีย จริงจัง น่าจะให้โอกาสกับทีมชาติ”

“นักเตะเล่นไม่ได้ตามแท็คติกที่วางไว้ ยกเว้นนัดกับญี่ปุ่น(แพ้ 0-1) ที่เน้นเกมรับ แต่เกมกับปาเลสไตน์(แพ้ 1-5) พยายามเปิดเกม จึงมีช่อง เกมรับเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อมีโอกาสต้องเปลี่ยนเป็นประตู สิ่งนี้อยากให้แก้ไข การทำงานแบบนี้ต้องใช้เวลา อย่างเช่นตอนฟุตบอลรายการพิเศษ เอ็ม-150 คัพ ที่แพ้ เวียดนาม 1-2 ทั้งๆ ที่ไทย มีโอกาสครองบอลมากกว่า ส่วนเวียดนาม โอกาสยิงแค่ 3 ครั้ง แต่เปลี่ยนเป็น 2 ประตู”

“ถ้ามีโอกาสต้องทำให้ได้ เล่นบอลต้องเป็นทีม รับต้องพร้อมกัน รุกต้องพร้อมกัน เราต้องปรับได้ เชื่อว่าในอนาคตน่าจะดีขึ้น”

“การขาด ชินภัทร์ ลีเอาะ, พิธิวัต สัขจิตธรรมกุล, สุริยา สิงห์มุ้ย ยอมรับว่าไม่สามารถหาคนมาทดแทนได้ ถ้ามี 3 คนนี้ซึ่งได้เป็นตัวจริงแน่นอน ทีมจะแกร่งกว่านี้ และเชื่อว่านัดกับ เกาหลีเหนือ และ ญี่ปุ่น (แพ้ 0-1) นั้น ทีมชาติไทย ไม่น่าแพ้ การขาด ชินภัทร์ ที่้เป็นตัวหลักแนวรับ มีผลอย่างมาก เพราะนัดสุดท้ายที่ ชินภัทร์ ลงสนามคือเกมชนะญี่ปุ่น 2-1 ในเอ็ม-150 คัพ”

“อนาคตคงพูดยาก การตัดสินใจแล้วแต่สมาคม แต่สิ่งสำคัญคือการแก้ปัญหา ฝากถึงแฟนบอลต้องมองกว้างๆ ว่ามีปัญหาอะไรบ้าง และต้องแก้ยังไง เพื่ออนาคตจะดีขึ้น ผมไม่รู้จะได้คุมทีมต่อหรือไม่ แต่ถ้าโค้ชใหม่เข้ามา เขาควรรู้ปัญหานี้”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้าไม่ได้ทำทีม 23 ปี จะกลับไปเป็นผู้ช่วย มิโลวาน ราเยวัช ในทีมชุดใหญ่หรือไม่ ซึ่ง โซรัน ตอบว่า “ตอนนี้ ราเยวัช มีผู้ช่วยคนใหม่แล้ว”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน