เมื่อ 27 ม.ค. ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาสุพรรณบุรี “บิ๊กท็อป”วราวุธ ศิลปอาชา ประธานสโมสร “ช้างศึกยุทธหัตถี”สุพรรณบุรี เอฟซี สโมสรชื่อดังในศึกโตโยต้า ไทยลีก เป็นประธานเปิดตัวสโมสรเพื่อสู้ศึกฤดูกาล 2018 โดยมี นายสุรพล อุทินทุ ผอ.สำนักประสานงานภายนอก บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ, นายสิทธิชัย กลีบสมุทร ผจก.ฝ่ายการการตลาด บมจ.ทรูคอร์เปอเรชั่น, นายวิศัลย์ วณะศักดิ์ศรีสกุล กก.ผจก. บ.วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด ฯลฯ รวมถึงสื่อมวลชนและแฟนคลับเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

 

“บิ๊กท็อป” กล่าวว่า “สุพรรณบุรี เอฟซี ก่อตั้งมานานและเลื่อนชั้นขึ้นลีกสูงสุดเมื่อปี 2013 เคยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการจบอันดับ 4 ของตารางคะแนน แต่ฤดูกาลที่ผ่านมาโชว์ฟอร์มไม่ดีเท่าไหร่นักด้วยการจบอันดับ 11 ของตารางคะแนน”

 

“ปีนี้สุพรรณบุรี ปรับโฉมทีมใหม่ เตรียมทีมดีกว่าเดิมไล่ตั้งแต่ชุดแข่งขัน แนวคิดของทีม ตลอดจนตัวผู้เล่น ซึ่งเป้าหมายของเราคือต้องกลับสู่ความยิ่งใหญ่แบบที่เคยทำได้อีกครั้ง ภายใต้แนวคิด one team one spirit คือการรวมใจเป็นหนึ่งเดียว”

 

“ที่ผ่านมาเรามีผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์มาอย่างมากมายแต่ความเป็นทีมกลับไม่ค่อยดี ดังนั้นปีนี้เราขอไม่เอาซูเปอร์สตาร์แต่หันมาใช้ความเป็นทีมเวิร์คมากขึ้น นอกจากนี้เรายังยกเลิการทำทีมบี เนื่องจากเราเคยลองทำทีมบี หรือทีมสำรองมาแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่เราคิดไว้ ดังนั้นปีนี้เราจึงโฟกัสไปที่ทีมใหญ่เพียงอย่างเดียว นอกจากนี้เรายังมีการปล่อยนักเตะออกไปพอสมควร”

 

“สำหรับบรรยากาศของทีมในปีนี้เราดีขึ้น นักเตะทั้งไทยและต่างชาติมีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะนักเตะต่างชาติเราเน้นไปที่ผู้เล่นที่เคยเล่นในไทยลีกมาแล้ว โดยมี กาเดโบ อเดลาโย ที่คุ้นเคยกับวงการฟุตบอลไทยมาอย่างยาวนาน เข้าใจถึงหลักการของสโมสรเป็นอย่างดี มีจิตวิทยาสูง ที่สำคัญเราไม่ได้เปลี่ยนแปลงทีมมากมายเชื่อว่าความลงตัวจะมีมากกว่าปีที่ผ่านๆ มา”

 

“นอกจากนี้ไฮไลต์สำคัญนั่นคือชุดแข่งที่ปีนี้ยังได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากวอริกซ์ ที่ทำออกมา 3 สี ประกอบด้วยสีกรมท่าเป็นเสื้อทีมเหย้า เสื้อเยือนใช้สีแดง และชุดที่สามคือสีขาว โดยลายเสื้อนั้นแฝงสัญลักษณ์ของจ.สุพรรณบุรี นั่นคือมีลายมังกรสวรรค์ที่กลางหน้าอก นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์หอคอยบรรหารที่ด้านซ้ายข้างลำตัวของเสื้อทีมเยือนเมื่อทั้งสองลายมารวมมารวมกันจะสมทบกันบนหน้าอกข้างซ้ายตรงกับคำขวัญของทีมคือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน”

 

“สำหรับเป้าหมายฤดูกาลนี้เราคงไม่คาดหวังมากเนื่องจากเป็นซีซั่นที่มีการแข่งขันสูงมากเพราะตกชั้น 5 ทีม อย่างไรก็ดีด้วยงบประมาณที่จำกัดเราใช้เพียง 100 กว่าล้านบาทเท่านั้น จึงหวังเอาไว้ว่าขอจบ 10 อันดับแรกของตางราง เนื่องจากเคยมีตัวอย่างให้เห็นว่าการตั้งความหวังไว้สูงเกินไปนั้นสร้างความกดดันให้ทั้งนักเตะและสต๊าฟโค้ช ครั้งนี้เราจึงไม่อยากคาดหวังอะไรมากนัก รอให้ผ่านเลกแรกเสียก่อนจากนั้นค่อยประเมินอีกครั้งว่าเราควรมุ่งหวังอย่างไร”

 

“ส่วนรายการฟุตบอลถ้วยนั้นเรามมุ่งหวังกับเกมเอฟเอ คัพ ที่อยากเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นอย่างน้อย หลังจากนั้นถือเป็นโบนัส หากเราได้สิทธิ์เล่นฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รับรองว่าครั้งนี้ไม่มีปัญหา เนื่องจากสนามของเราได้รับการปรับปรุงใหม่หลายอย่างเรียกพร้อมเต็มร้อยสำหรับมาตรฐานฟุตบอลเอเชีย” นายใหญ่สุพรรณบุรี กล่าวปิดท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน