เปิดตัวสู้ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2018 ไปที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ “ช้างศึกยุทธหัตถี”สุพรรณบุรี เอฟซี อีกทีมยักษ์หลับที่รอวันตื่นขึ้นมาสร้างความหวาดหวั่นให้กับบรรดาเพื่อนร่วมลีก รวมถึงคู่แข่งที่ต้องประจันหน้ากันบนสังเวียนพื้นหญ้า

ฤดูกาลที่แล้ว สุพรรณบุรี มีปัญหาพอสมควรทั้งการเสียนักเตะดังอย่าง ชาริล ชัปปุยส์ ที่เฝ้าไข้ดูแลอย่างดีเมื่อครั้งได้บาดเจ็บหนักต้องพักเป็นปี แต่สุดท้ายกลับเสียให้คู่แข่ง นอกจากนี้ในตำแหน่งกุนซือต้องเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก บางครั้งถึงขนาดดึง “โค้ชโย่ง”วรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนเยาวชนไทยขณะนั้นไปช่วยทำทีมช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะตัดสินใจเรียกใช้งาน กาเดโบ อเดบาโย ประธานพัฒนาเทคนิคของสโมสรลงมาคุมทัพแบบเต็มตัว

การที่ อเดบาโย อยู่กับสุพรรณบุรี มานานรู้ว่านักเตะแต่ละคนมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง จึงสามารถปรับจูนทีมได้เร็วพร้อมกับผ่านพ้นฤดูกาลมาแบบไม่ยากเย็นนักเมื่อจบอันดับ 11 ของตารางคะแนน ซึ่งเมื่อจบฤดูกาลได้ปรับเปลี่ยนทีมครั้งใหญ่โดยเฉพาะนักเตะต่างชาติตัดสินใจปล่อยออกจากทีมทั้งหมด พร้อมกับดึง ซิลวาโน กอมฟาลิอุส ศูนย์หน้าชาวดัตช์ ทากาฟูมิ อากะโฮชิ นักเตะญี่ปุ่นตำแหน่งกองกลางที่ย้ายมาจากราชบุรี เอฟซี โรมูโล คาบราล เปร์ไรรา ปินโต ดาวยิงบราซิเลียน และแอนเดอร์สัน ดอส ซานโตส กองหลังร่างโย่งชาวบราซิลที่ค้าแข้งไทยลีกมาอย่างยาวนาน เข้ามาเสริมแทน

สโมสรได้พยายามอย่างมากในการผลักดันระบบเยาวนสร้างอคาเดมี ส่งทีมสำรอง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นปีนี้จึงยกเลิกการทำทีมสำรอง (ทีมบี) และหันมาให้ความสนใจกับทีมใหญ่เพียงอย่างเดียว

เมื่อร่วมตัวเก่าที่มีอย่าง สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, อดุล หละโสะ, ชนานันท์ ป้อมบุบผา, อนาวิน จูจีน, ธนาสิทธิ์ ศิริผลา และดาวรุ่งรวมถึงแข้งเก่าอีกหลายคนทำให้สุพรรรบุรีน่ากลัวไม่น้อย

“บิ๊กท็อป”วราวุธ ศิลปอาชา กล่าวว่า ที่ผ่านมาสโมสรได้พยายามอย่างมากในการผลักดันระบบเยาวนสร้างอคาเดมี ส่งทีมสำรอง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นปีนี้จึงยกเลิกการทำทีมสำรอง (ทีมบี) และหันมาให้ความสนใจกับทีมใหญ่เพียงอย่างเดียว

การให้ความสำคัญกับทีมเดียวทำให้งบประมาณที่วางไว้ราว 100 ล้านบาท โดยได้มากจากผู้สนับสนุนอย่าง บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), บมจ.ทรูคอร์เปอเรชั่น, บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด, เครื่องดื่มเกลือแร่ สปอนเซอร์, รพ. บีเอ็นเอช และรายได้ส่วนอื่นของสโมสรจะถูกนำมาบริหารจัดการทีมได้อย่างเต็มที่ไม่ต้องเจียดแบ่งไปดูแลทีมเด็ก

สำหรับสุพรรณบุรี ในฤดูกาลนี้มีคำขวัญว่า “หนึ่งทีม หนึ่งใจ” (one team one spirit) คือเน้นการทำงานที่เป็นทีมเวิร์คเป็นหลักไม่เน้นการมีซูเปอร์สตาร์ภายในทีม เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกันนั่นคือการพาทีมกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งหลังจากเคยจบอันดับ 4 ของตาราคะแนนมาแล้ว

เป้าหมายฤดูกาลนี้เราคงไม่คาดหวังมากเนื่องจากเป็นซีซั่นที่มีการแข่งขันสูงมากเพราะตกชั้น 5 ทีม อย่างไรก็ดีด้วยงบประมาณที่จำกัดเราใช้เพียง 100 กว่าล้านบาทเท่านั้น จึงหวังเอาไว้ว่าขอจบ 10 อันดับแรก

“ที่ผ่านมาเรามีผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์มาอย่างมากมายแต่ความเป็นทีมกลับไม่ค่อยดี ดังนั้นปีนี้เราขอไม่เอาซูเปอร์สตาร์แต่หันมาใช้ความเป็นทีมเวิร์คมากขึ้น ปีนี้เราโฟกัสไปที่ทีมใหญ่เพียงอย่างเดียว นอกจากนี้เรายังมีการปล่อยนักเตะออกไปพอสมควร”

 

 

 

 

 

สำหรับบรรยากาศของทีมในปีนี้เราดีขึ้น นักเตะทั้งไทยและต่างชาติมีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะนักเตะต่างชาติเราเน้นไปที่ผู้เล่นที่เคยเล่นในไทยลีกมาแล้ว โดยมี กาเดโบ อเดลาโย ที่คุ้นเคยกับวงการฟุตบอลไทยมาอย่างยาวนาน เข้าใจถึงหลักการของสโมสรเป็นอย่างดี มีจิตวิทยาสูง ที่สำคัญเราไม่ได้เปลี่ยนแปลงทีมมากมายเชื่อว่าความลงตัวจะมีมากกว่าปีที่ผ่านๆ มา”

“เป้าหมายฤดูกาลนี้เราคงไม่คาดหวังมากเนื่องจากเป็นซีซั่นที่มีการแข่งขันสูงมากเพราะตกชั้น 5 ทีม อย่างไรก็ดีด้วยงบประมาณที่จำกัดเราใช้เพียง 100 กว่าล้านบาทเท่านั้น จึงหวังเอาไว้ว่าขอจบ 10 อันดับแรกของตางรางส่วนรายการฟุตบอลถ้วยนั้นเรามมุ่งหวังกับเกมเอฟเอ คัพ ที่อยากเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นอย่างน้อย หลังจากนั้นถือเป็นโบนัส หากเราได้สิทธิ์เล่นฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รับรองว่าครั้งนี้ไม่มีปัญหา เนื่องจากสนามของเราได้รับการปรับปรุงใหม่หลายอย่างเรียกว่าพร้อมเต็มร้อยสำหรับมาตรฐานฟุตบอลเอเชีย” นายใหญ่สุพรรณบุรี กล่าวปิดท้าย

ถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธการทำทีมที่แทบจะพลิกหน้ามือเพราะที่ผ่านมา สุพรรณบุรี เอฟซี จะมีสตาร์ดังประดับทีมเสมอ คราวนี้หันมาใช้ทีมเวิร์คเป็นหลัก กับคาดหวังที่ไม่สูงมากนัก อเดบาโย กับลูกทีมจะทำได้หรือไม่ จะมีปัจจัยอะไรเข้ามากระทบช้างศึกโขลงนี้มากน้อยเพียงใด อีกไม่กี่วันได้รู้แน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน