ทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่องสำหรับสโมสรฟุตบอลในศึกโตโยต้า ไทยลีก 2018 เนื่องจากมีเวลาเพียงอีก 2 สัปดาห์เกมแรกของซีซั่นใหม่จะฟาดแข้งอย่างเป็นทางการ โดยทุกทีมต่างมีเป้าหมายที่แตกต่างกันไป

“ฉลามชล”ชลบุรี เอฟซี ถือเป็นสโมสรเก่าแก่ที่อยู่คู่กับวงการลูกหนังไทยมาอย่างยาวนานร่วม 30 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาว มีล้มเหลวและสมหวัง แต่บอร์ดบริหารยังคงมุ่งมั่นที่พัฒนาเมืองท่องเที่ยวแห่งนี้ให้เป็นเมืองแห่งฟุตบอลควบคู่ไปด้วย

ชลบุรี เผยผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุดแดนสยามมาแล้วเมื่อปี 2007 ภายใต้การนำของ “เซอร์เด็จ”จเด็จ มีลาภ จากนั้นยังร้อนแรงต่อเนื่องมีลุ้นติดต่อกันแทบทุกปี กระทั่งช่วงหลังที่แผ่วปลายลงไปเนื่องจากจำเป็นต้องปล่อยแกนหลักออกจากทีมทำให้ผลงานวูบลงอย่างน่าใจหายแฟนบอลที่เคยแน่นชลบุรี สเตเดี้ยม กลับดูมีที่ว่างมากกว่าปกติ แถมปีนี้เพิ่งเสีย นูรูล ศรียานเก็ม ปีกความเร็วสูงให้กับการท่าเรือ เอฟซี ขุมกำลังยิ่งยวบไปกว่าเดิม

“เดอะเซนต์”อรรณพ สิงโตทอง รองประธานสโมสรกล่าวยอมรับว่าปีนี้แม้ว่าจะเติมผู้เล่นหลายราย แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช่บิ๊กเนมเกือบทั้งหมดเป็นนักเตะมากประสบการณ์ที่จะเข้ามาช่วยประคองเยาวชนของทีมที่กำลังจะก้าวขึ้นชุดใหญ่

รองประธานชลบุรี กล่าวว่า “อย่างที่ทราบดีว่าเรามุ่งเน้นกับการปั้นเยาวชนอย่างจริงจังและทำมานานแล้วจนสามารถสร้างนักเตะขึ้นสู่ชุดใหญ่ รวมถึงก้าวไปติดทีมชาติแทบจะทุกระดับอายุ แน่นอนปีนี้เราจะได้เห็นนักเตะเหล่านั้นก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ โดยมีแกนหลักเดิมคอยประคอง ผมเข้าใจแฟนบอลที่ต้องการเห็นทีมประสบความสำเร็จ และเราเองไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามผลักดันให้เด็กเหล่านี้มีเวทีเพื่อสร้างกระดูกเพื่อเป็นกำลังสำคัญให้กับทีม”

“การใช้เงินราว 100 ล้านต่อปีต้องยอมรับว่าโอกาสประสบความสำเร็จเช่นการก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์ฟุตบอลลีกเป็นไปได้ยาก เราไม่สามารถสู้ทีมอย่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมืองทอง ยูไนเต็ด แบงค็อก ยูไนเต็ด เชียงราย ยูไนเต็ด การท่าเรือ เอฟซี ที่ใช้งบแต่ละไม่ต่ำกว่า 300-400 ล้านบาท แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่สู้เราจะสู้สุดความสามารถไม่ให้ใครมองว่าชลบุรีคือหมูในอวยให้เชือดได้ง่ายๆ แน่นอน”

ขณะที่นายจีระศักดิ์ โจมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อ ชลบุรี เอฟซี กล่าวว่า ในปีนี้ ชลบุรี จะใช้งบประมาณเท่าเดิมคือไม่เกิน 100 ล้านบาท ยอมรับว่ามีการเปลี่ยนแปลงเยอะ ทั้งนักเตะ และโค้ช ที่มาใช้ โกรัน บาร์ยัคทาเรวิช ยาวเยอรมนี และมี เทิดศักดิ์ ใจมั่น เป็นผู้ช่วย เป้าหมายขอให้ดีกว่าเดิม ที่จบอันดับ 7 หรือถ้าจะติดท็อป 5 ถือเป็นโบนัส แล้วไปเน้นที่ฟุตบอลถ้วย อยากเข้ารอบชิงชนะเลิศสัก 1 รายการ อย่างไรก็ตาม ชลบุรี มีแผนการระยะยาวว่าอีก 2-3 ปี จากนี้ จะต้องกลับมาอยู่ในจุดเดิม คือลุ้นแชมป์ไทยลีก และได้กลับไปเล่นเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก

ปีนี้ชลบุรี เสริมทัพอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น ธนาเสฏฐ์ สุจริต, ณัฐพงศ์ เปพาทย์, มาร์เคล ซานโตส, ซีโร่ อัลเวส, ซูลฟาห์มี่ อารีฟิน, วัฒนศัพท์ เจริญศรี และ ธีระพงศ์ ดีหามแห, คิม คยองมิน, ปฏิภาณ ปิ่นเสริมสูตรศรี, อภิชัย หมั่นอุตส่าห์, คมกริช คำโสกเชือก เรียกว่าแทบจะครบ 11 ตัว เมื่อผสมกับชุดเก่าที่มีอยู่อย่าง ชนินทร์ แซ่เอียะ, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, ปรินซ์ อัมปงซาห์, สุทธินันท์ พุกหอม, ชลทิตย์ จันทคาม แถมดาวรุ่งน่าจับตามองทั้ง สิทธิโชค ภาโส, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ถือว่าไม่น่าเกลียดคงพอต่อกรกับคู่แข่งได้สนุก

การเข้ามาของ โกรัน บาร์ยัคทาเรวิช และมีเทิดศักดิ์ เป็นผู้ช่วยนั้นจะตอบโจทย์ที่บอร์ดบริหารได้หรือไม่ แฟนบอลดินแดนน้ำเค็มจะกลับมาคึกคักสร้างความกังวลให้คู่แข่งได้อีกไหม ไม่วันข้างหน้าจะได้เห็นกัน แต่ที่แน่ๆ อนาคตอีกไม่กี่ปีเชื่อนักเตะชุดนี้จะแข็งแกร่งพอทาบชั้นอันดับต้นๆ ไทยลีกได้อย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน