ฤดูกาล 2017 ที่ผ่านมานับเป็นซีซั่นที่ยากลำบากมากที่สุดครั้งหนึ่งของ “สิงห์เจ้าท่า”การท่าเรือ เอฟซี เมื่อ “มาดามแป้ง”นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการโยก “เซอร์เด็จ”จเด็จ มีลาภ กุนซือใหญ่ในขณะนั้นขึ้นไปเป็นที่ปรึกษาฝ่ายเทคนิค พร้อมกับแต่งตั้ง “ซิโก้”เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ขึ้นเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่

ด้วยชื่อเสียงและความเป็นบุคคลที่แฟนบอลให้ความสนใจความกัดดันจึงถาโถมเข้าใส่กุนซือคนใหม่อย่างจัง ประกอบกับเป็นช่วงกลางฤดูกาลทำให้ “ซิโก้” ปรับทีมได้ไม่มากนัก ผู้เล่นยังไม่ได้เลือกด้วยตัวเองเป็นเหตุให้ผลงานดำดิ่ง 11 นัดชนะเพียงเกมเดียวจนอันดับร่วงไปอยู่โซนที่สุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้น เดือดร้อน “มาดามแป้ง” ต้องตัดสินใจให้ จเด็จ กลับมาทำทีมอีกครั้งก่อนจะเอาตัวรอดแบบสบายๆ

ฤดูกาล 2018 ไทยลีกประกาศชัดเจนว่าจะมีการตกชั้น 5 ทีม ซึ่งแน่นอนในฐานะเจ้าของทีมคงไม่อยากกลับไปเจอสถานการณ์แบบเดียวกับซีซั่นที่แล้ว ว่าแล้ว “มาดามแป้ง” จัดเต็มเรื่องขุมกำลังเมื่อยอมจ่ายค่าเหนื่อยแพงระยับให้กับ ดราแกน บอสโควิช กองหน้าดาวซัลโวไทยลีก ของแบงค็อก ยูไนเต็ด มาร่วมทีม นอกจากนี้ยังยอมทุ่มเม็ดเงินถึง 20 ล้านบาทกระชาก นูรูล ศรียานเก็ม จากชลบุรี เอฟซี มาร่วมทัพ

นอกจาก 2 รายนี้ยังมีนักเตะอีกหลายคนพาเหรดเข้าทีมไม่ว่าจะเป็น ปัณณ์พันธุ์พงษ์ ปิ่นกอง (แบงค็อก ยูไนเต็ด), ชาคริต ระวันประโคน (นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี), อธิบดี เอติรัตน์ (นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี), เนบิญา บายรัม (อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด), บดินทร์ ผาลา (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด), เทเรนส์ ปูหิริ (บอร์เนียว เอฟซี), อาทิตย์ บุตรจินดา (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด), คิม ซึง ฮวาน (อุลซาน ฮุนได)

ขณะเดียวกัน “เซอร์เด็จ” ตัดสินใจปล่อย เก็งกิ นางาซาโตะ, โชซิมาร์ โรดริเกวส, มาร์เซล เอสซอมเบ, อานิสงค์ เจริญธรรม, ศิวะพงษ์ เจริญศิลป์, อิทธิพล พูลทรัพย์, นรากร คณา, เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์, ศุภชัย แม้นจิตต์, ภิญโญ อินพินิจ, วุฒิชัย ทาทอง, ปิยะชาติ ถามะพันธ์, ปิยะชาติ ศรีมะเรือง (แขวนสตั๊ด), มาติอัส ฆาดูเอ กอนซาเลส

ถึงตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงสัปดาห์เดียวเกมนัดแรกของซีซั่นจะฟาดแข้งอย่างเป็นทางการ ซึ่ง “เซอร์เด็จ” เผยความพร้อมถึง 80 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่าเวลาที่เหลือทุกอย่างจะพร้อมเต็มร้อย

“เราลงสนามอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายไปแล้วกับสุพรรณบุรี เอฟซี เมื่อ 3 ก.พ. และจะเป็นเกมนัดสุดท้ายในการปรีซีซั่น จากนี้เราเหลือเวลาอีก 1 สัปดาห์ในการปรับปรุงแทคติกและความเข้าใจกันระหว่างนักเตะ ซึ่งผมเชื่อว่าจะพร้อมเต็มร้อยก่อนฤดูกาลจะเริ่มขึ้นอย่างแน่นอน”

“อย่างที่ทราบดีว่าปีที่แล้วเราต้องลุ้นเหนื่อยกว่าจะเอาตัวรอดจากการดิ้นรนให้พ้นโซนตกชั้น แต่ปีนี้เรามีการเสริมทีมได้อย่างแข็งแกร่ง และเป้าหมายไม่ได้อยู่ที่การเอาตัวรอดอีกต่อไปแล้ว สิ่งที่ผมมองคือการติด 1 ใน 5 ของตารางคะแนนเลย เรื่องการหนีตกชั้นไม่มีอยู่ในหัวผม”

“อีกปัจจัยที่ทำให้ผมมั่นใจว่าเราทำได้นั่นคือแฟนบอลของเราเอง อย่างที่ทุกคนทราบดีว่าแฟนบอลท่าเรือนั้นกดดันคู่ให้เราเก็บชัยชนะในบ้านมานักต่อนัก และปีนี้จะเป็นอีกปีที่แฟนบอลของเราจะมีส่วนกับความสำเร็จของทีมอีกครั้ง”

การท่าเรือ ถือเป็นสโมสรฟุตบอลเก่าแก่ที่อยู่กับวงการลูกหนังไทยมาอย่างยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ สร้างประวัติศาสตร์ให้กับฟุตบอลแดนสยามมามามาย สร้างนักเตะ สร้างบุคคลากรลูกหนังให้กับประเทศมานับไม่ถ้วน

ความสำเร็จที่ผ่านมาถือเป็นเกียรติประวัติที่ควรจดจำ ถึงตอนนี้ได้เวลาแล้วที่สิงห์เจ้าท่าจะผงาดสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับตัวเอง

“Make A New History”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน