เมื่อ 5 ก.พ. ที่ห้องประชุมชั้น 24 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดงานแถลงข่าวต่อสัญญา มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ออกไปอีก 2 ปี โดยสิ้นสุดปี 2020

“บิ๊กอ๊อด” กล่าวว่า “การพูดคุยระหว่างสมาคมและราเยวัชเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและตกลงต่อสัญญาออกไปอีกสองปี โดยมีงานสำคัญคือฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ และฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ 2019”

 

“ราเยวัชเรียกร้องค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นจากเดิมแต่ไม่ได้มากมายอะไร อย่างไรก็ดีสมาคมมีข้อแม้นั่นคือต้องเอาผลงานมาวัด โดยเราคาดหวังกับฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ ที่ไทยไม่เคยผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ได้เลย ดังนั้นครั้งนี้เราจึงใช้เกณฑ์เอเชี่ยนคัพเป็นหลักนั่นคือต้องผ่านรอบแรกให้ได้ หากทำได้สัญญาจะเพิ่มเงินเดือนให้โดยอัตโนมัติ”

 

ด้านกุนซือชาวเซอร์เบีย กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนมีความสุขกับการทำงานในประเทศไทย โดยงานแรกที่ต้องทำคือฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 46 ที่ไทยได้แชมป์มา 2 ปีติด จึงอยากจะพาทีมป้องกันแชมป์ให้ได้

 

“เราต้องการเป็นแชมป์แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะว่าทุกชาติที่มาร่วมเป็นทีมแกร่งและที่สำคัญเป็นช่วงฟีฟ่าเดย์ดังนั้นทุกชาติจะส่งนักเตะชุดใหญ่มาร่วม ขณะที่เราเองต้องการผู้เล่นที่ดีที่สุด ดังนั้นนักเตะที่ไปค้าแข้งต่างประเทศทั้ง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน รวมถึง ชนาธิป สรงกระสินธ์ จะถูกเรียกตัวมาร่วมทีมอย่างแน่นอน”

 

“หลังจากคิงส์คัพเราจะเริ่มมองนักเตะในลีกของประเทศเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเอเชี่ยนคัพ เนื่อจากเป้าหมายหลักของเราอยู่ที่นั่น เราต้องการผ่านรอบแบ่งกลุ่มให้ได้ ดังนั้นการทำงานเตรียมทีมรวมถึงหาผู้เล่นที่เหมาะสมที่สุดต้องเริ่มทำในทันที ขณะที่ฟุตบอลซูซูกิ คัพ ช่วงปลายปีน่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์สำหรับการทดลองนักเตะเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตัดสินใจว่าจะเลือกใครไปเล่นเอเชี่ยนคัพ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน