เมื่อ 8 ก.พ. ที่ห้องอาหาร ทีเฮาส์ นางสาวกิตติมา รัตนแสงเสถียร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด และ นายจุลทัย ศาลิคุปต์ ผู้อำนวยการฝ่ายรายการกีฬา บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด ร่วมแถลงความพร้อมของทรูวิชั่นส์ถ่ายทอดสดฟุตบอลประจำฤดูกาล 2018

น.ส.กิตติมา กล่าวว่า สำหรับฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2018 ที่กำลังจะเปิดฤดูกาลทางทรูวิชั่นส์ยังเป็นผู้ที่ได้รับลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสด ครบทั้ง 306 นัด ตลอดฤดูกาล สัปดาห์ละ 9 คู่ ซึ่งจะประเดิมด้วยเกมเปิดสนามของแชมป์เก่า “ปราสาทสายฟ้า”บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่จะรับการมาเยือนของ “ราชันมังกร”ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ถ่ายทอดสดทางทรูสปอร์ต 2 (682) และทรูสปอร์ตเอชดี 2 (667) ในวันที่ 9 ก.พ. เวลา 19.00 น.

น.ส.กิตติมา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทรูวิชั่นส์ยังเป็นผู้เดียวในประเทศไทยที่ได้รับลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลเจลีก ญี่ปุ่น ซึ่งในปีนี้มี 3 นักเตะไทยไปค้าแข้งในประเทศญี่ปุ่นประกอบด้วย ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับสโมสรคอนซาโดเล ซัปโปโร, ธีรศิลป์ แดงดา กับฮิโรชิม่า ซานเฟรซเช่, ธีราทร บุญมาทัน กับวิสเซล โกเบ และเชาว์วัฒน์ วีระชาติ ที่ย้ายไปเล่นให้เซเรโซ่ โอซาก้า ซึ่งทางทรูวิชั่นส์จะพยายามดึงเกมที่ทั้ง 4 คนลงเล่นมาถ่ายทอดสดให้ได้มากที่สุด เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ได้ครบทุกคู่

ด้านนายจุลทัย กล่าวว่า “เรื่องการถ่ายทอดสดฟุตบอลเจลีกทางประเทศญี่ปุ่นไม่ได้ขายลิขสิทธิ์ให้ไทยเพียงชาติเดียว ยังมีทั้งฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ และอีกหลายชาติ ซึ่งแต่ละประเทศไม่ได้ต้องการดูแมตช์เดียวกับที่คนไทยอยากดูได้ ดังนั้นการที่เราจะบังคับให้ญี่ปุ่นถ่ายทอดสดเกมที่มีนักเตะไทยสนามอย่างเดียวจึงเป็นไปไม่ได้ เมื่อปีที่แล้วการที่เราได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดเจลีก แต่มีทีมเดียวที่มีนักเตะไทยนั่นคือคอนซาโดเล ซัปโปโร เราจึงสามารถเรียกร้องให้ถ่ายทุกเกมที่ชนาธิปลงสนาม อย่างไรก็ดีปีนี้ทรูวิชั่นส์ยืนยันว่าจะต้องมีอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งคนที่คนไทยจะได้ดูถ่ายทอดสด หรือหากโชคดีเราอาจได้ดูครบทุกคนในสัปดาห์เดียว”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน