เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน พระราม 9 พล.อ.พิศาล วัฒนวงศ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานงานแถลงข่าว 80 ปี วีรบุรุษลูกหนังไทย อาจารย์ วิจิตร เกตุแก้ว อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยมีศิษย์เก่าชาวพลศึกษา และบุคคลสำคัญของวงการกีฬาฟุตบอลไทยเข้าร่วมอย่างคับคั่ง รวมถึง “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมด้วย
พล.อ.พิศาล กล่าวว่า ในช่วงที่อาจารย์วิจิตรเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และมีนายวรวีร์เป็นเลขาธิการ วงการฟุตบอลไทยสร้างความสำเร็จได้อย่างมากมาย โดยเฉพาะการคว้าแชมป์ซีเกมส์ 8 สมัยติดต่อกัน ซึ่งในวาระครบรอบ 80 ปี จึงได้ร่วมกันจัดงาน 80 ปี วีรบุรุษลูกหนังไทย อาจารย์ วิจิตร เกตุแก้ว ขึ้นที่สนามศุภชลาศัย วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ โดยมี 2 กิจกรรมคือ 1.ฟุตบอลคนรัก อาจารย์ วิจิตร 6 ทีม ประกอบด้วย ทีมรวมใจเพื่อน, ทีมชาติอาวุโส, ทีมอดีตนักเตะทีมชาติไทย, ทีมรวมผู้สื่อข่าว, ทีมเศรษฐี 31 และทีมรักอาจารย์วิจิตร เริ่มแข่งขันคู่แรกเวลา 14.30 น. 2.งานเลี้ยงสังสรรค์ พร้อมงานครบรอบวันเกิด 80 ปี อาจารย์ วิจิตร เริ่มงานเวลา 18.30 น.
ขณะที่ อาจารย์วิจิตร กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้กลับมารวมกันเป็นครอบครัวใหญ่อีกครั้ง ซึ่งฟุตบอลคือชีวิตของตัวเอง และมีทุกวันนี้ได้เพราะฟุตบอล โดยอยากขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันจัดงานนี้ขึ้นมาที่สนามศุภชลาศัย ซึ่งเป็นสถานที่เกิด เรียน ทำงาน และตัดสินฟุตบอลที่นี่ สำหรับภายในงานจะมีการแข่งขันฟุตบอล จากนั้นจะมีงานเลี้ยงสังสรรค์กันต่อ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากน้องๆ อดีตทีมชาติ ผู้ตัดสิน และทุกฝ่ายมาร่วมมือกันในงานนี้
“ผมอายุจะ 80 ปีแล้ว แต่ยังเดินไหว เตะบอลไหว และอยากให้ทุกคนมาร่วมงานกัน มาร่วมสนุกสนามกัน มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แต่ยืนยันได้ว่า ภายในงานนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองของวงการฟุตบอลไทยอย่างแน่นอน ซึ่งผมรู้สึกดีใจที่ได้กลับมาพอเจอกับทุกคนในรอบกว่าสิบปีอีกด้วย” อาจารย์วิจิตร กล่าว
อดีตนายกสมาคมฟุตบอลไทยกล่าวอีกว่า วงการฟุตบอลไทยในปัจจุบันถือว่าทำดีอยู่แล้ว ซึ่งตัวเองก็คอยดูอยู่ข้างนอก และอยากขอให้ทุกคนมีความรักสามัคคีกลมเกลียวกัน ส่วนความหวังของทีมชาติไทยในการไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายนั้น คงต้องใช้ระยะเวลาอีกพอสมควร เพราะจะต้องมีการวางแผนพัฒนาตั้งแต่ระดับเยาวชน อีกทั้ง ตราบใดที่วงการฟุตบอล และสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังไม่ลงลึกไปพัฒนาตั้งแต่ระดับตำบลในต่างจังหวัดก็เป็นเรื่องยาก เพราะการพัฒนาจะต้องเร่มตั้งแต่เด็ก และตั้งแต่รากหญ้าด้วย สุดท้ายอยากฝากถึงวงการฟุตบอลขอให้ทุกคนคิดดีทำดี
ด้าน “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ 4 สมัย และอดีตกรรมการบริหารของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ซึ่งโดนลงโทษจากฟีฟ่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลเป็นระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ.2559 ปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนภายในงาน
