ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2018 นัดที่สองของฤดูกาล คู่บิ๊กแมตช์ที่เอสซีจี สเตเดี้ยม “กิเลนผยอง”เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงเปิดบ้านรับการมาเยือนของ “สิงห์เจ้าท่า”การท่าเรือ เอฟซี จ่าฝูง เริ่มเกมเมืองทองเปิดฉากบุกเข้าใส่ทันที ขณะที่การท่าเรือเน้นตั้งรับรอโต้กลับเร็วและสร้างโอกาสลุ้นประตูสวยๆ หลายครั้ง
เกมเข้าสู่นาทีที่ 8 การท่าเรือได้ฟาวล์นอกกรอบเขตโทษ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ รับหน้าที่เปิดเข้าไปกดดันหน้าปากประตู พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา กองหลังเมืองทองพยายามโหม่งสกัดแต่โดนบอลไม่ดีเปลี่ยนทางเสียบเสาสองให้การท่าเรือพลิกขึ้นนำ 1-0
หลังจากเสียประตูเมืองทองพยายามโหมรุกอย่างหนักแต่ยังสร้างโอกาสได้ไม่มากเท่าไหร่นัก ซึ่งกองหน้าทั้งสามคนไม่ว่าจะเป็น แจ๊กสัน โคเอลโญ่, เฮเบอร์ตี้ เฟอร์นันเดส และเจนรบ สำเภาดี แทบไม่มีโอกาสลุ้นประตู ขณะที่การท่าเรือโต้กลับใช้ความเร็วของ นูรูล ศรียานเก็ม รวมถึงความคล่องของ เซอร์จิโอ ซัวเรซ สร้างจังหวะหวาดเสียวได้หลายครั้งอย่างไรก็ดีช่วงที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มทำให้จบ 45 นาทีแรกเจ้าบ้านยังตามหลัง 0-1
ครึ่งหลังเมืองทองยังเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่ไหลลื่นเท่าที่ควรในการสร้างโอกาสลุ้นประตูต้องอาศัยการยิงไกลจากนอกกรอบ กระทั่งนาที 62 ต้องปรับแผนด้วยการส่ง สิโรจน์ ฉัตรทอง ลงเล่นแทน ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร เพื่อเติมเกมบุก
เกมเข้าสู่นาที 66 การท่าเรือที่โดนเมืองทองกดดันอย่างหนักแต่โต้กลับคม เมื่อ เซอร์จิโอ ซัวเรซ จ่ายให้นิติพงษ์ เสลานนท์ กระชากเข้ากรอบเขตโทษก่อนจ่ายคืนให้ ซัวเรซ แปยัดเสาแรกให้การท่าเรือหนีห่าง 2-0 เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายเมืองทองต้องปรับทัพด้วยการถอด เจนรบ สำเภาดี กองหน้าที่มีอาการบาดเจ็บออกแล้วส่ง รัชพล นาวันโน กองกลางลงเล่นแทน
อย่างไรก็ดีช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรเพิ่มไม่ได้ทำให้จบเกมเมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านแพ้ การท่าเรือ 0-2 ทำให้เมืองทองแพ้การท่าเรือในบ้านของตัวเองเป็นปีที่สองติดต่อกัน ที่สำคัญส่งให้การท่าเรือเก็บ 6 แต้มเต็มกลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงไทยลีกอีกครั้งโดยยังไม่เสียประตูให้ใคร
