“ปราสาทสายฟ้า”บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่จะมีโปรแกรมลงเล่นศึกฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2018 รอบแบ่งกลุ่ม (กลุ่มจี) เกมที่ 2 ด้วยการเปิดบุรีรัมย์ สเตเดี้ยม พบ เจจู ยูไนเต็ด ทีมรองแชมป์เคลีก ประเทศเกาหลีใต้ ในวันพุธที่ 21 ก.พ. 18.00 น. ถ่ายทอดสดผ่านทาง Fox Sport 3 (689)

ล่าสุดเมื่อ 20 ก.พ. ได้มีการแถลงข่าวความพร้อมก่อนการแข่งขันโดยบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ส่ง “บอสโก”โบซิดาร์ บันโดวิช หัวหน้าผู้ฝึกสอน และ“โน้ต”จักรพันธ์ แก้วพรม กองกลางตัวเก่งของทีม ด้านเจจู ยูไนเต็ด ส่ง โช ซุง ฮวาน หัวหน้าผู้ฝึกสอน และโช ยองฮยุง นักเตะตัวเก่งของทีม ร่วมแถลงข่าว

บันโดวิช เปิดเผยว่า “เกมนี้เป็นเกมที่ 2 ของเรา แน่นอนทีมของเราเต็มที่ แต่ทุกเกมในเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ยากหมด พวกเรามีความเชื่อมั่นในความเป็นทีม ต่อให้เกมนี้ยากแค่ไหนพวกเราในทีมทุกคนพร้อมที่จะสู้ ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าทีมเวิร์กของเรานั้นดีแค่ไหน ไม่ใช่แค่เกมที่ผ่านมา แต่เรามีทีมเวิร์กที่ดีมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว”

“พวกเรารู้ว่าเจจู เป็นทีมที่ดี มีนักเตะที่เคยค้าแข้งในยุโรปมาอยู่ในทีม แต่เราได้ศึกษาวิธีการเล่นของทีมเจจู มาเป็นอย่างดี ซึ่งเราพร้อมที่จะสู้ ความพร้อมความฟิตของนักเตะเราวิ่งได้ไม่มีหมดอย่างแน่นอน และเราเชื่อว่าแฟนบอลจะเข้ามาช่วยเรากดดันคู่แข่งอีกทางหนึ่ง เกมนี้เราไม่ได้สู้เพื่อความเป็นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เท่านั้น แต่เราสู้เพื่อศักดิ์ศรีของประเทศไทยด้วย”

ส่วนจักรพันธ์ แก้วพรม เปิดเผยว่า “เจจูเป็นทีมที่แกร่ง เรารู้กันอยู่แล้วว่าทีมจากเคลีก มีมาตรฐานที่สูง นักเตะมีร่างกายที่ดี แต่จากการที่เราศึกษาเขามา เราสู้ได้ เราเห็นว่าเขามีจุดบกพร่องตรงไหนบ้าง เราจะใช้การเล่นของเราเจาะเข้าไปตรงนั้น ซึ่งเชื่อว่าเกมนี้เราจะได้ผลการแข่งขันที่ดีอีกนัดหนึ่ง”

ด้าน โช ซุง ฮวาน เปิดเผยว่า “เราเตรียมตัวมาอย่างหนักเพื่อเกมนี้ เพราะเรารู้ว่าการมาเล่นที่นี่ไม่ง่าย ที่ประเทศไทยร้อนมาก ร้อนกว่าที่เกาหลีใต้เยอะ แต่เราเคยมาเก็บตัวที่เชียงใหม่ ซึ่งน่าจะช่วยให้เรารับมือกับอากาศได้ เกมแรกเรามีผลการแข่งขันที่ไม่ค่อยดีนัก เกมนี้เราเลยตั้งเป้าว่าจะทำให้ได้ดีกว่าเดิม เราศึกษาการเล่นของบุรีรัมย์ มาพอสมควร และเราได้เตรียมทีม เตรียมแผนการเล่นมาเพื่อเกมนี้โดยเฉพาะ”

ขณะที่ โช ยองฮยุง เปิดเผยว่า “อากาศที่นี่มีผลต่อเรามาก แต่เพื่อนร่วมทีมของผมมีจิตใจที่แข็งแกร่ง และพร้อมที่จะสู้ ซึ่งเราศึกษาเกมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาพอสมควร และเราเห็นว่าทีมของเราแข็งแกร่งกว่าน่าจะเอาชนะได้”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน