เมื่อ 8 มี.ค.ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานแถลงข่าวฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 46 ระหว่าง 22-25 มี.ค. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยมี 4 ชาติเข้าร่วมประกอบด้วย ไทย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สโลวะเกีย และ กาบอง

 

“บิ๊กอ๊อด” กล่าวว่า “คิงส์คัพ เป็นฟุตบอลแห่งเกียรติยศและศักดิ์ศรีของคนไทย เนื่องจากเป็นถ้วยพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ปีนี้ครบรอบ 50 ปี เป็นทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลเก่าแก่ที่สุดทัวร์นาเมนต์หนึ่งของโลก นักฟุตบอล ทีมงานโค้ช รวมถึงแฟนบอลต้องการให้ถ้วยพระราชทานนี้ยังอยู่ที่ประเทศไทย เนื่องจากไทยได้แชมป์รายการนี้มาสองปีติดต่อกันแล้ว ดังนั้นครั้งนี้เป้าหมายของทีมชาติไทยคือการรักษาแชมป์ให้ได้”

 

“อย่างไรก็ดีต้องยอมรับว่าชาติที่มาเข้าร่วมนั้นมีอันดับโลกสูงกว่าไทย มีดารานักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ร่วมทีมมากมายจึงไม่ใช่งานง่ายของไทยที่จะป้องกันแชมป์ แต่ไม่ว่าอย่างไรการได้เล่นกับทีมระดับนี้ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรทีมไทยได้ประโยชน์ทั้งการได้เล่นกับทีมที่แกร่งกว่า รวมถึงอาจส่งผลต่อการจัดอันดับโลกของฟีฟ่าด้วย”

 

“คิงส์คัพครั้งนี้จัดตรงกับฟีฟ่าเดย์และมีผลต่อคะแนนการจัดแรงกิ้ง ดังนั้นทุกชาติที่เข้าร่วมต้องส่งนักเตะตัวหลักมาร่วม โดยกาบอง จะมีดาวดังอย่าง ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมยอง กองหน้าอาร์เซน่อล ส่วนสโลวะเกีย นำทีมมาโดย มาเร็ก ฮัมซิค กองกลางจากนาโปลี ขณะที่ยูเออี เราคงคุ้นเคยกันดีกับนักเตะระดับทวีปอย่าง โอมาร์ อับดัลราห์มาน”

 

“ตั้งแต่ปี 61 เป็นต้นไป ฟุตบอลไทยจะมีความชัดเจนในการอุ่นเครื่องหรือจัดทัวร์นาเมนต์ต่างๆ โดยทีมที่มาร่วมหรือเราจะออกไปอุ่นเครื่องนั้นต้องเป็นทีมที่มีอันดับสูงกว่าไทย เพื่อเปิดโอกาสให้เรารู้ตัวเองว่าอยู่จุดไหน รวมถึงการสร้างกิจกรรมควบคู่เพื่อความบันเทิงให้กับแฟนบอล อย่างเช่นคิงส์คัพครั้งนี้เรามีดารานักร้องอย่าง BNK48 เข้ามาสร้างสีสันเพื่อให้คนทุกกลุ่มได้ร่วมอาทิคุณพ่อเข้ามาดูฟุตบอล ขณะที่คุณแม่กับลูกมาดูนักร้องถือเป็นการสร้างความบันเทิงครบวงจร” บิ๊กอ๊อด กล่าว

 

ด้าน มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าการเตรียมทีมครั้งนี้มีเวลาน้อย ทำให้เลือกผู้เล่นที่เคยติดทีมชาติและคุ้นเคยกับระบบการเล่นของทีมมาก่อน และได้เสริมผู้เล่นดาวรุ่งบางคนเข้าไปด้วย อย่างไรก็ตามสำหรับนักเตะไทยที่กำลังทำผลงานได้ดีในตอนนี้ อยากให้รักษาผลงานเอาไว้และจะได้รับโอกาสอย่างแน่นอน

“สำหรับคิงส์คัพครั้งนี้ เป็นงานที่ยากกว่าปีก่อน เพราะว่าทีมที่มาล้วนแต่เป็นทีมแกร่งทั้งสิ้น แต่ไม่ว่าจะเจอกับใครต้องเอาชนะให้ได้ เพื่อรักษาแชมป์เอาไว้ ส่วนแนวทางการเล่นคงไม่สามารถบอกได้ว่าจะเน้นเกมรุก หรือว่าเน้นเกมรับ แต่ต้องเป็นการเล่นที่หวังผลการแข่งขันเป็นหลัก ทั้งเกมรุกและเกมรับจะต้องไปด้วยกันได้” กุนซือทีมชาติไทย กล่าว

 

ราเยวัช กล่าวปิดท้ายว่า การเจอกับทีมกาบองที่ต้องเจอรอบแรกนั้น เป็นทีมที่พัฒนาขึ้นมามากในช่วง 2-3 ปีหลัง มีผู้เล่นในลีกยุโรปหลายคน ได้ศึกษาการเล่นมาแล้ว เป็นทีมที่ยอดเยี่ยม มีคุณภาพ จะเป็นโอกาสดีที่นักเตะไทยจะได้ทดสอบด้วย

 

นอกจากนี้ในงานยังได้ประกาศรายชื่อนักเตะของทั้ง 4 ทีมที่จะเข้าแข่งขัน โดยสโลวะเกีย นำทีมโดย มาเร็ค ฮัมซิก กองกลางของนาโปลี ทีมในกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี, มาร์ติน สเคอร์เทล อดีตกองหลัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล และมาร์ติน ดูบราฟก้า จอมหนึบจาก “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

 

ด้านกาบอง นำทีมโดย ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมอยอง กองหน้าของ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล และ ดิดิเยร์ เอ็นด็อง กองกลางจากซันเดอร์แลนด์ ขณะที่ยูเออี นำทีมโดย โอมาร์ อับดุลรามาน เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งอดีตนักเตะยอดเยี่ยมเอเชีย เมื่อปี 2016 และ อาเหม็ด คาห์ลิล ดาวยิงตัวเก่ง

เช่นเดียวกับทีมชาติไทย ประกาศรายชื่อ 23 นักเตะชุดคิงส์คัพ นำทีมโดย 4 นักเตะที่ค้าแข้งอยู่ต่างประเทศทั้งหมด

ผู้รักษาประตู กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, ฉัตรชัย บุตรพรหม

กองหลัง นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, อดิศร พรหมรักษ์, เควิน ดีรมรัมย์, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, พรรษา เหมวิบูลย์, มานูเอล ทอม เบียห์ร, ชินภัทร ลีเอาะ, ธีราทร บุญมาทัน

กองกลาง ปกเกล้า อนันต์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, จักรพันธ์ แก้วพรม, มงคล ทศไกร, นูรูล ศรียานเก็ม, บดินทร์ ผาลา, ชนาธิป สรงกระสินธ์, สุภโชค สารชาติ

กองหน้า สิโรจน์ ฉัตรทอง, ธีรศิลป์ แดงดา, สุพจน์ จดจำ

 

สำหรับคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 เตะนัดแรกวันที่ 22 มี.ค. คู่แรกเวลา 16.00 น. สโลวะเกีย พบ ยูเออี คู่สองเวลา 19.30 น. ทีมชาติไทย พบ กาบอง ทั้งสองแมตช์เตะที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน