ศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ระหว่างเลสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับ เชลซี เมื่อวันที่ 18 มี.ค.
เลสเตอร์ เกมนี้ส่งดาวดังทั้งเจมี วาร์ดี, ริยาด มาห์เรซ ลงสนาม
ส่วนทีมเยือน เชลซี ให้ อัลบาโร โมราตา กองหน้าทีมชาติสเปนล่าตาข่าย แดนกลางมี วิลเลียน, เอเดน อาซาร์, มาร์กอส อลอนโซ, วิกเตอร์ โมเซส ทำเกม
เกมแลกกันสนุก นาทีที่ 23 วิลเฟรด เอ็นดีดี ได้ยิงนอกรกอบเขตโทษ แต่ตรงตัว วิลลี กาบาเยโร นายทวาราเชลซีล้มตัวรับไว้ได้
นาทีที่ 27 โมราตายิงจากนอกกรอบเขตโทษ บอลตรงตัวแคชเปอร์ ชไมเคิล ผู้รักษาประตูเลสเตอร์
นาทีที่ 29 โมราตามีโอกาสอีกครั้ง แต่โหม่งข้ามคาน
กระทั่งนาทีที่ 42 เชลซีโต้กลับเร็ว วิลเลียนกระชากบอลจากแดนตัวเอง มาจนถึงกึ่งกลางสนาม ก่อนไหลต่อให้โมราตาหลุดมาทางด้านซ้าย ลากต่อไปจนถึงกรอบเขตโทษ ก่อนจะยิง เสาสอง ตุงตาข่าย เชลซีนำ 1-0
จบครึ่งแรก เชลซีนำ 1-0
ครึ่งหลัง นาทีที่ 53 อาซาร์ได้ส่องนอกกรอบเขตโทษ บอลข้ามคาน
เลสเตอร์เร่งเกมหวังตีเสมอให้ได้ ขณะที่ เชลซีคอยสวน
นาทีที่ 70 ฟาเบรกาส ได้ส่องจากนอกเขตโทษ แต่ บิเซนเต ไอบอร์ร่า ล้มตัวสกัดไว้ได้
กระทั่งนาทีที่ 76 เลสเตอร์ตีเสมอได้ เมื่อมาห์เรซกระชากบอลขึ้นมาทางขวา แล้วเปิดมาในเขตโทษ วาร์ดี้ยิงจังหวะแรก โดนกองหลังเชลซีบล็อกไว้ได้ ไอบอร์ราได้ยิงซ้ำ ก็โดนบล็อกอีกถึง 2 ครั้ง ก่อนจะบอลจะหลุดมาถึงวาร์ดี้ยิงซ้ำเข้าประตูอย่างสวยงาม ตีเสมอ 1-1
นาทีที่ 83 เลสเตอร์มีลุ้นได้ประตูอีกครั้ง เมื่อวาร์ดี้ลากลุยไปยิงในเขตโทษ แต่กาบาเยโรล้มตัวปัดไว้ได้
ช่วงท้ายเกม เชลซีมีโอกาสได้ประตูเช่นกัน นาทีที่ 87 โมราตาหลุดไปยิงในเขตโทษ แต่ชไมเคิลออกมาบล็อกไว้ได้ทัน
จบการแข่งขัน 90 นาที เสมอ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาทีเพื่อหาผู้ชนะผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศศึกเอฟเอ คัพ
ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก เชลซีได้ประตูนำ นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก จากจังหวะที่เอ็นโคโล ก็องเตเปิดบอลจากด้านซ้ายเข้าไปในเขตโทษ แคสเปอร์ ชไมเคิล ออกมาตัดบอลพลาด เปโดร โหม่งเข้าไปตุงตาข่าย
จบการแข่งขันช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก เชลซีนำ 2-1
ส่วนครึ่งหลังของการต่อเวลาพิเศษ เลสเตอร์มีโอกาสตีเสมอ จากจังหวะยิงของมาห์เรซ แต่ก็ถูกบล็อกไว้ได้
ขณะที่ เชลซีมีโอกาสได้ประตูที่สาม จากลูกยิงของก็องเต บริเวณหน้าเขตโทษ แต่มาร์ก อัลไบร์ตันสกดัไว้ได้
จบการแข่งขัน 120 นาที เชลซีชนะเลสเตอร์ 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ