กีฬาฟุตบอลถือเป็นกีฬามหาชนได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งของโลกรวมถึงประเทศไทย ทุกครั้งที่มีการแข่งขันประเทศผู้หลักหมื่นจะหลั่งไหลเข้าสนามเพื่อชมเกมที่ตนรักรวมถึงส่งกำลังใจให้นักเตะในสนาม

 

แต่ปัญหาของเกมลูกหนังต้องยอมรับว่าความนิยมส่วนใหญ่อยู่ที่ฟุตบอลชายมากกว่าฟุตบอลหญิง ดังนั้นเวทีของผู้หญิงในระดับอาชีพจึงมีน้อยหรือแทบจะไม่มีเลย ส่งผลอย่างยิ่งต่อการพัฒนาฝีเท้าเพื่อต่อยอดไปยังทีมชาติ

แม้ว่าลีกอาชีพของผู้หญิงจะยังไม่ได้รับสนใจเท่าที่ควรยังใช้การเล่นสนามกลางแข่งเป็นหลักไม่เหมือนทีมชายที่มีการเล่นเหย้า-เยือนเป็นอาชีพมากกว่า กระนั้นก็ดียังมีผู้คนอีกมากมายที่หลงใหลกีฬาชนิดนี้และพร้อมจะแสดงฝีเท้าเมื่อโอกาสมาถึง

 

“โซดา”ปริยาภัทร กากแก้ว สาวน้อยวัย 17 ปีชาวปทุมธานี เป็นอีกคนที่หลงรักกีฬาไล่หวดลูกหนังบนพื้นหญ้า โดยเจ้าตัวเผยว่าชอบเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก และคุณพ่อรวมถึงครอบครัวให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี เธอจึงเริ่มฝึกฟุตบอลอย่างจริงจังตั้งแต่อายุ 7 ขวบ

 

เมื่อเห็นว่าลูกสาวตกลงจริงกับเรื่องลูกหนังคุณพ่อจึงตัดสินใจส่งเสริมอย่างจริงจังด้วยการย้ายไปเรียนที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี และสถานที่แห่งนี้คือคำตอบที่ใช่สำหรับ ปริยาภัทร เมื่อเธอได้ฝึกฝนทักษะที่ถูกต้องและจริงจังจนพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง พาทีมประสบความสำเร็จการแข่งขันรายการต่างๆ บ่อยครั้ง

กระทั่งเข้าสู่อายุ 14 ปริยาภัทร ถูกเรียกติดทีมเยาวชนจังหวัดชลบุรี และได้เล่นในกีฬาเยาวชนแห่งชาติเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ “จันทบูรณ์เกมส์” ที่จ.จันทบุรี เมื่อปี 2558 พร้อมทั้งมีส่วนให้ทีมประสบความสำเร็จคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ และกลายเป็นตัวสำคัญของทีมมาตลอด

 

ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาแม้ว่าชลบุรีจะเป็นตัวเต็งอันดับต้นๆ ในการคว้าเหรียญทองกีฬาเยาวชนแห่งชาติ แต่ชลบุรีพลาดหวังมาตลอดจนถึงปีนี้ ที่น่านเกมส์ กีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 34 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่ “โซดา” จะเล่นได้เนื่องจากครบ 17 ปีเต็ม ดังนั้นครั้งนี้เธอจึงมุ่งมั่นเป็นพิเศษ

 

ความทักษะที่ยอดเยี่่ยม จับบอลเนียนตา จ่ายบอลด้วยชั้นเชิงสุดยอด ที่เหนือกว่านั้นคือการจบสกอร์ที่เฉียบคมหาตัวจับยาก เรียกว่าง้างเท้าเมื่อไหร่เพื่อนร่วมทีมเตรียมเฮได้เลย แน่นอนด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจทำให้เธอยิงไปถึง 15 ประตูใน 4 เกม โดยรอบแรกนัดแรกอัดพิจิตร 15-0 ปริยาภัทร เหมาคนเดียว 5 เม็ด ส่วนนัดแรกชนะลำปาง 4-1 แต่เธอผลิตสกอร์ไม่ได้ ก่อนที่รอบ 8 ทีมจะกลับมาร้อนแรงยิงคนเดียว 9 ลูกในนัดที่ชนะน่าน 17-0 ตามด้วยอัดศรีสะเกษ 3-1 ในรอบรองชนะเลิศและปริยาภัทรยิง 1 ลูก ปิดท้ายเกมชิงชนะเลิศปริยาภัทร มีส่วนร่วมกับทั้งสามประตูที่ชนะ 3-0 โดยลูกแรก “โซดา” เรียกจุดโทษให้กับทีมก่อนจะยิงอีก 2 เม็ดส่งท้าย ให้ชลบุรี กลับมาคว้าเหรียญทองกีฬาเยาวชนแห่งชาติในรอบ 3 ปีได้สำเร็จ พร้อมกับส่งท้ายกีฬาเยาวชนที่ยอดเยี่ยมของ ปริยาภัทร อีกด้วย

 

ด้วยทักษะที่ยอดเยี่ยม รูปร่างที่ไม่เป็นรองคู่แข่งแถมด้วยความเร็วทำให้ ปริยาภัทร ถูกเรียกติดเยาวชนทีมชาติไทยรุ่นไม่เกิน 19 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งที่เพิ่งครบ 17 ปีเมื่อไม่นานมานี้เอง

 

“ดีใจกับเหรียญทองสุดท้ายในกีฬาเยาวชนแห่งชาติ เพราะ โซดา จะอายุเกินในปีหน้า แต่ยังต้องพัฒนาตัวเองต่อไปเพื่อโอกาสทีมชาติ ตอนนี้ติดทีม 19 ปีแล้วเป้าหมายต่อไปคือทีมชาติชุดใหญ่ ที่สำคัญคือการเล่นฟุตบอลอาชีพอยากให้มีลีกอาชีพเหมือนกันฟุตบอลชาย อยากมีรายได้เลี้ยงครอบครัวได้ในอนาคต” สาวน้อยกล่าว

 

ปัจจุบันสาวน้อยจบการศึกษาระดับมัธยมปลายที่ร.ร.กีฬาจ.ชลบุรี แต่ยังเลือกที่เล่นฟุตบอลต่อไปดังนั้นจึงตัดสินใจเรียนต่ออุดมศึกษาที่สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชลบุรี (สพล.ชลบุรี) เพื่อยังเล่นฟุตบอลที่ตนเองรัก เพื่อโอกาสในการก้าวสู่ทีมชาติชุดใหญ่ต่อไป

 

แม้จะบรรยายให้เห็นภาพการเล่นของสาวน้อยคนนี้ชัดเจน แต่หากจะเอาไปเปรียบกับนักเตะชื่อดังของผู้ชายขอให้นึกถึง “มุ้ย”ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าเบอร์หนึ่งทีมชาติไทย เพราะสไตล์และวิธีการเล่นของปริยาภัทรละม้ายคล้ายคลึงกันอย่างมาก

 

หรืออาจพูดได้ว่าในอนาคต ปริยาภัทร คือ ธีรศิลป์ แห่งวงการลูกหนังสาวไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน