นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา นายกสมาคมกีฬ่สควอชแห่งประเทศไทย เป็นประธานประชุมใหญ่สามัญประจำปี ที่ห้องประชุมชั้น 5 อาคาร เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบเฉลิมพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 เม.ย.61โดยการประชุมครั้งนี้มีสมาชิกสโมสรเข้าร่วมเกิน 12 สโมสรจากทั้งหมด 23 สโมสรถือว่าเกินครึ่งหนึ่งตามระเบียบสมาคม ซึ่งที่ประชุมได้มีการรับรองงบดุลสมาคมซึ่งมีรายได้มากกว่ารายจ่าย 3,816,199.75 บาท

ทั้งนี้สมาคมได้วางแผนการทำงานในปี 2561 โดยจะส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันรายการนานาชาติ ประกอบด้วย เอเชี่ยน ทีม แชมเปี้ยนชิพ ที่เกาหลีใต้, ซีคัพ ครั้งที่ 4 ที่อินโดนีเซีย, เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่อินโดนีเซีย, เอเชี่ยน สคูลเกมส์ ที่มาเลเซีย

นอกจากนี้ในวันที่ 25-29 เม.ย. นี้จะส่งนักกีฬาทีมชาติเข้าแข่งขันรายการ “เซาท์อีสต์ เอเชี่ยน คัพ สควอช แชมเปี้ยนชิพ” ครั้งที่ 4 ที่อินโดนีเซีย ทั้งสิ้น 7 คน ประกอยด้วย ณัฐกิตติ์ จิวาสุวรรณ, พศวี สันติวิสุทธิ์, ฉัฏฐพร จันทนยิ่งยง, วริทธิ์พล กลิ่นสุนทร, อนันตนา ประเสริฐรัตนกุล, ทัดดาว ธำรงลาภ, ปรางหทัย พงษ์รัตนะ และมี มร.ทีเรนซ์ ชาล์ส ชีเธม ชาวออสเตรเลียเป็นผู้ฝึกสอน โดยรายการนี้มีชาติในเอเชียเข้าแข่งขัน 16 ประเทศ ถืแเป็นรายการใหญ่ระดับเอเชียเลยทีเดียว

ในช่วงท้ายการประชุม นายชลิตรัตน์ ได้กล่าวในที่ประชุมว่า หลังจากได้เข้ามาบริหารงานสมาคมกีฬาสควอชฯ ได้ปีเศษๆนี้ ตนพบว่ามีบางสโมสรที่ยังคลางแคลงใจในการบริหารสมาคมของคณะกรรมการชุดนี้ และเพื่อให้สังคม สควอช และ กีฬ่าสควอช ได้ก้าวไปในทิศทางที่คนสควอชต้องการจริงๆ ตนก็ได้หารือกับคณะกรรมการบริหารทุกท่านว่า ตนจะขอลาออก เพื่อให้สโมสรสมาชิก และ คนสควอชจริงๆกลับไปคุยกันว่าต้องการให้สควอชไปในทิศทางใด หรือ อยากให้ใครเข้ามาบริหารงานต่อไป

“ที่ผ่านมาผมและคณะกรรมการทุกคนภูมิใจและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เข้ามาบริหารงานและช่วยยกระดับกีฬาสควอชให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นหลังเงียบกันมานาน เราบริหารงานจากติดลบจนก้าวมาเป็นสมาคมที่มีงบประมาณรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย เราได้วางรากฐานการทำงาน แผนงานทั้งในและต่างประเทศ มีแผนการพัฒนานักกีฬาที่ชัดเจน ส่งแข่งขัน และ มีผลงานที่ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับคนในสควอชแล้วว่าจะกำหนดทิศทางไปทางใดต่อไป ส่วนผมและคณะกรรมการชุดนี้ก็จะรักษาการไปก่อนจนกว่าจะได้คณะกรรมการชุดใหม่”

นายชลิตรัตน์ กล่าวอีกว่า ตามระเบียบข้อบังคับสมาคม หลังการลาออกของนายกสมาคมฯแล้วต้องมีการกำหนดวันเลือกตั้งนายกฯและคณะกรรมการบริหารฯภายใน 30 วัน ซึ่งช่วงนี้ชุดเดิมก็จะรักษาการไปก่อน และจากนั้นคณะกรรมการชุดใหม่ก็จะต้องทำตาม พรบ.กีฬาที่จะต้องจดทะเบียนจัดตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ภายใน 45 วัน

“การลาออกครั้งนี้ผมยืนยันว่าตะไม่กระทบแผนการสนับสนุนนักกีฬา และ การส่งนักกีฬาเข้าร่วมเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 อย่างแน่นอนเพราะได้เตรียมแผนการฝึกซ้อม และคัดตัวนักกีฬ่ส่งให้การกีฬ่แห่งประเทศไทย และ โอลิมปิคแห่งประเทศไทยไว้แล้ว รวมถึงผู้ฝึกสอนชาวต่างชาติก็ยังอยู่ดูแลนักกีฬาไปจนสิ้นเดือน ก.ย.นี้ตามงบประมาณที่ได้รับ ดังนั้นสโมสรสมาชิกและผู้ปกครอง รวมถึงนักกีฬ่าสบายใจได้” นายชลิตรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน