สำหรับการภาวะการซื้อขายวันศุกร์ที่ 4 พ.ค. 2561 ดัชนีปิดที่ 1,779.87 จุด เปลี่ยนแปลง -10.87 จุด หรือ -0.61% มูลค่าการซื้อขาย 55,852.89 ล้านบาท การซื้อขายแยกตามประเภทนักลงทุน สถาบันในประเทศ -1,381.69 ล้านบาท, บัญชี บล. +514.10 ล้านบาท, นักลงทุนต่างประเทศ -4,144.84 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไป +5,012.43 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 6,596,022.88 บาท ปิดที่ 56.75 บาท ลดลง -0.75 บาท (-1.30%)
2. SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,875,980.00 บาท ปิดที่ 462.00 บาท ลดลง -10.00 บาท (-2.12%)
3. TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,826,296.28 บาท ปิดที่ 7.95 บาท เพิ่มขึ้น +0.20 บาท (+2.58%)
4. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,690,997.10 บาท ปิดที่ 137.50 บาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท (+0.73%)
5. PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,896,628.10 บาท ปิดที่ 96.00 บาท ลดลง -1.25 บาท (-1.29%)

ตลาดหุ้นไทยตลอดสัปดาห์ (30 เม.ย. 2561 – 4 พ.ค. 2561) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.85 จุด มาปิดที่ 1,779.87 จุด แม้ปัจจัยต่างประเทศยังคงมี Sentiment ที่เป็นลบ ทั้งจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยเฉพาะความกังวลว่าสหรัฐฯ อาจใช้มาตรการควบคุมบริษัทของจีน เช่น ZTE และหัวเว่ย เป็นต้น ที่ส่งมอบสินค้าให้กับอิหร่าน ซึ่งเป็นการละเมิดการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน รวมถึงการส่งสัญญาณชัดเจนของเฟดที่คาดจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในการประชุมเดือนมิ.ย. หลังอัตราเงินเฟ้อเข้าสู่เป้าหมายที่ 2%

ในขณะที่ในภาพรวมในประเทศยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ โดยอยู่ในช่วงประกาศผลการดำเนินงาน ซึ่งคาดว่ายังมีแรงเก็บกำไรต่อเนื่องถึงกลางพ.ค. พร้อมคาดว่าอาจมีแรงเก็งกำไรในกลุ่มพลังงาน ภายใต้คาดการณ์ราคาน้ำมันที่มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น หากสหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่ออิหร่าน

บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน