สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2559 ปิดที่ 1,496.36 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +10.68 จุด คิดเป็น +0.72% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,496.38 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,488.38 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 50,686.61 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 933.20 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +7.75 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 0.35% เนื่องจากนักลงทุนยังคงเชื่อมั่นว่า นโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะช่วยกระตุ้นภาคส่วนต่างๆในระบบเศรษฐกิจสหรัฐให้ฟื้นตัวขึ้น พร้อมกับคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งพอที่จะปรับตัวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่อาจจะเกิดขึ้นในเดือนหน้า
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดแดนบวก ตามทิศทางตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชีย ขณะที่นักลงทุนต่างซึมซับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ในการประชุมเดือนธ.ค. นี้ โดยมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจโลก หากธนาคารกลางสหรัฐขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดอ่อนตัวลง 0.22% ภายหลังจากที่ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดอัตราอ้างอิงเงินหยวนลง เพื่อสกัดการอ่อนค่าของเงินหยวน ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันขอบคุณผู้ใช้แรงงาน
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,219.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.20 บาท คิดเป็น +1.07%
2. JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,940.48 ล้านบาท ลดลง -0.15 บาท คิดเป็น -1.88%
3. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,935.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +6.00 บาท คิดเป็น +1.74%
4. IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,693.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท คิดเป็น +3.08%
5. ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,387.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.00 บาท คิดเป็น +1.41%
ดัชนีดีดกลับขึ้นมาได้ต่อเนื่อง โดยผ่านขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้อีกทั้งยังเกือบปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันได้อีกด้วยหลังจากผ่านขึ้นมาปิด GAP แถวๆ 1,493 จุดได้ ทำให้วันนี้มีโอกาสที่ดัชนีจะดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ 1,499-1,500 จุด โดยมีแนวรับบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันแถวๆ 1,492 จุด ไม่หลุดหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ นี้ซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นปิด GAP แถวๆ 1,513 จุดได้ต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
