สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม 2561 ปิดที่ 1,732.51 จุด ปรับตัวลดลง -21.09 จุด คิดเป็น -1.20% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,751.04 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,729.95 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 64,406.97 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,139.91 จุด ปรับตัวลดลง -16.27 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้น 0.21% หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 1-2 พ.ค.เมื่อวานนี้ โดยนักลงทุนมองว่ารายงานดังกล่าวไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วไปกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้แล้วก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานของไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐ ต่างก็ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนพ.ค.
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดขยับขึ้นเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลง 0.45% ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานกำไรของภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนเม.ย.ของจีน ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันอาทิตย์นี้
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลง 1.11% โดยได้รับปัจจัยลบจากเงินเยนที่แข็งค่า รวมทั้งรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตราที่สูงขึ้น
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 12,216.94 ล้านบาท ลดลง -2.75 บาท คิดเป็น -5.14%
2. BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,788.11 ล้านบาท ลดลง -1.10 บาท คิดเป็น -5.14%
3. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,637.81 ล้านบาท ลดลง -0.50 บาท คิดเป็น -0.62%
4. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,422.48 ล้านบาท ลดลง -4.50 บาท คิดเป็น -3.11%
5. EA มูลค่าการซื้อขาย 1,810.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.75 บาท คิดเป็น +1.94%
ดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่องทำ New low ในรอบ 2 สัปดาห์ โดยอ่อนตัวลงมาทดสอบแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันและจุดต่ำสุดเดิมในรอบ 1 เดือนกว่าแถวๆ 1,729-1,724 จุดแล้วมีการดีดกลับประคองตัวเล็กน้อยในช่วงบ่าย โดยที่ดัชนีเริ่มหลุดลงมาเล่นนอกกรอบ BollingerBottom เล็กน้อยแล้ว
หากวันนี้(25) ดัชนีไม่สามารถประคองตัวปิดเหนือแนวรับในช่วงระดับดังกล่าวอีก ดัชนีอาจซึมลงต่อได้ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,704 จุด สำหรับแนวต้านสั้นๆ อยู่ที่ 1,744-1,745 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
