สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม 2561 ปิดที่ 1,726.97 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +1.83 จุด คิดเป็น +0.11% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,734.28 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,720.31 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 99,932.17 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,134.76 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +1.70 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 1.26% เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในอิตาลี หลังจากมีรายงานว่าพรรคการเมืองใหญ่ของอิตาลีกำลังร่วมมือกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในอิตาลี
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดพุ่งสูงขึ้น 1.78% ภายหลังจากที่จีนได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสในวันนี้
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้น 0.83% เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานข่าวที่ว่า สองพรรคการเมืองใหญ่ของอิตาลีได้ส่งสัญญาณว่าจะจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งช่วยลดความเป็นไปได้ที่อิตาลีจะจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 10,847.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.75 บาท คิดเป็น +1.46%
2. SCC มูลค่าการซื้อขาย 8,573.85 ล้านบาท ลดลง -6.00 บาท คิดเป็น -1.33%
3. LH มูลค่าการซื้อขาย 3,433.91 ล้านบาท ลดลง -0.30 บาท คิดเป็น -2.63%
4. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,888.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.00 บาท คิดเป็น +1.51%
5. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,806.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท คิดเป็น +0.31%
ดัชนีมีการแกว่งตัวพอสมควรเนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ MSCI จะปรับพอร์ตการลงทุน ซึ่งมีผลทำให้ดัชนีมีการแกว่งตัวจากการขายหุ้นสลับซื้อหุ้นเพื่อจัดพอร์ต ในกรอบเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันและเส้น BollingerBottom
ซึ่งวันนี้(1) ดัชนียังมีแนวโน้มที่จะยังแกว่งตัวในกรอบดังกล่าว หากดัชนีอ่อนตัวกลับลงมาที่เส้น BollingerBottom แถวๆ 1,717 จุดอีก น่าซื้อเล่นสั้น ลุ้นดีดกลับได้แถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 1,730 จุดอีกครั้งหรือปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1,733 จุดได้จึงจะมีลุ้นรีบาวด์สัปดาห์หน้าได้ต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
