นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในเดือนพ.ค. 2561 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของกลุ่มประเทศในอาเซียนปรับตัวลดลงทั้งหมด ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก โดยการเมืองต่างประเทศเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อทิศทางของดัชนี

สำหรับตลาดหลักทรัพย์ไทยโดยภาพรวมยังคงมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งโดยกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2561 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.3% ทั้งนี้ผู้ลงทุนรายย่อย ผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์มีสถานะซื้อสุทธิในเดือนนี้

ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย ในเดือนพ.ค. 2561 ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 51,734 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาคที่ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิเป็นส่วนใหญ่ โดยเคลื่อนไหวสวนทางกับตลาดตราสารหนี้ของไทยที่ผู้ลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ณ สิ้นเดือนพ.ค. 2561 ปิดที่ 1,726.97 จุด ลดลง 1.5% จากสิ้นปี 2560 อย่างไรก็ตาม มี 3 ดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มทรัพยากร กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และกลุ่มบริการ ตามลำดับ

Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนพ.ค. 2561 อยู่ที่ระดับ 15.74 ขณะที่ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 17.62 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.96 เท่า และ 15.62 เท่า ตามลำดับ

อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนพ.ค. 2561 อยู่ที่ระดับ 2.97% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียที่อยู่ที่ 2.68%

มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนพ.ค. 2561 อยู่ที่ 17.7 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2% จากสิ้นปี 2560

มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai ในเดือนพ.ค. 2561 อยู่ที่ 60,905 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในเดือนพ.ค. 2561 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 391,920 สัญญา ซึ่งเพิ่มขึ้น 9.1% จากเดือนก่อน มาจากการซื้อขาย Single stock futures ที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน