สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2559 ปิดที่ 1,510.24 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +13.06 จุด คิดเป็น +0.87% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,511.87 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,496.05 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 69,967.04 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 943.18 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +10.70 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 0.12% หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ที่ขยายตัวแข็งแกร่งสุดในรอบ 2 ปี และราคาบ้านที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวในกรอบแคบๆ เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ร่วงลงเกือบ 4% ก่อนที่การประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) จะมีขึ้นในวันนี้
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดอ่อนตัวลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันที่เปิดฉากขึ้นในวันนี้ รวมถึงการที่รอยัล แบงค์ ออฟ สกอตแลนด์ ไม่ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤตที่ธนาคารกลางอังกฤษได้กำหนดไว้ ก็เป็นประเด็นที่สร้างความกังวลในตลาดด้วยเช่นกัน
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดร่วงลง 1.00% เนื่องจากแรงขายทำกำไรที่มีเข้ามาหลังจากที่ตลาดดีดตัวขึ้นก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังกังวลเกี่ยวกับการควบคุมสินเชื่อที่อาศัยรายบุคคลด้วยเช่นกัน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดขยับขึ้นเล็กน้อย 0.01% โดยได้แรงหนุนจากรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของสหรัฐ ที่มีการขยายตัวแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขาย ก่อนที่การประชุมอย่างเป็นทางการของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. AOT มูลค่าการซื้อขาย 5,749.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +13.00 บาท คิดเป็น +3.34%
2. BJC มูลค่าการซื้อขาย 5,287.95 ล้านบาท ลดลง -1.75 บาท คิดเป็น -3.23%
3. KCE มูลค่าการซื้อขาย 3,957.90 ล้านบาท ลดลง -3.00 บาท คิดเป็น -2.43%
4. SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,418.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.50 บาท คิดเป็น +1.03%
5. PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,702.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +7.00 บาท คิดเป็น +2.05%
ดัชนีมีการแกว่งตัวแคบๆ ในช่วงเช้า โดยมีความพยายามประคองตัวไม่หลุดลงไปทำ New low ก่อนที่ในช่วงบ่ายดัชนีจะเริ่มปรับตัวสูงขึ้นทำ New high ได้อีกเล็กน้อย ประกอบกับวันพรุ่งนี้ (1 ธ.ค.) จะเกิดสัญญาณ Golden Cross ซึ่งมีโอกาสที่ดัชนีจะผ่านขึ้นปิด GAP ที่ 1,513 จุดได้ โดยมีแนวต้านถัดไปบริเวณเส้น BollingerTop และจุดสูงสุดเดิมในรอบ 3 สัปดาห์แถวๆ 1,519-1,522 จุดต่อไป ในขณะที่แนวรับอยู่แถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 1,503 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
