สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 20 มิถุนายน 2561 ปิดที่ 1,664.26 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +24.72 จุด คิดเป็น +1.51% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,665.27 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,640.13 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 60,045.53 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,090.62 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +18.66 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 1.15% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจทวีความรุนแรงมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก โดยความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งรวมถึงหุ้นโบอิ้ง และแคทเธอร์พิลลาร์
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดดีดตัวขึ้น แม้นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ขณะที่ตลาดจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน ซึ่งจะมีขึ้นในวันศุกร์นี้ ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดดีดตัวขึ้น 0.27% ตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชียที่ต่างก็ฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 1.24% โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้นอีกครั้ง หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างหนักเมื่อวานนี้
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 5,369.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท คิดเป็น +2.09%
2. DOD มูลค่าการซื้อขาย 3,897.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +5.40 บาท คิดเป็น +58.06%
3. GLOW มูลค่าการซื้อขาย 2,885.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.75 บาท คิดเป็น +1.89%
4. PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,433.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +4.00 บาท คิดเป็น +5.02%
5. AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,398.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท คิดเป็น +0.38%
ดัชนีมีความพยายามรีบาวด์กลับโดยมีการแกว่งตัวในช่วงเปิดตลาดเล็กน้อยและไม่ทำ New low ต่ำกว่าวันก่อนหน้า ก่อนที่จะมีการดีดกลับขึ้นทดสอบแนวต้านแถวๆ เส้น BollingerBottom แต่ก็ยังยืนเหนือไม่ได้ โดยในช่วงบ่ายดัชนีมีความพยายามประคองยืนในแดนบวกตลอดทั้งวัน
หากวันนี้(21) ดัชนีประคองตัวปิดในกรอบเส้นดังกล่าวซึ่งจะขยับลงมาแถวๆ 1,660 จุดไม่ได้เป็นอย่างน้อยอีกดัชนีอาจซึมลงต่อได้ตามทิศทางเดิม โดยมีเป้าหมายแนวรับที่ระดับ 1,600 จุด แต่ถ้ายืนปิดแถวๆ 1,660 จุดได้ ดัชนีจึงจะมีลุ้นรีบาวด์จากการทำปิดงบไตรมาสสองได้ต่อไป สำหรับแนวต้านอยู่แถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 1,670-1,672 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
