สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันอังคารที่ 13 กันยายน 2559 ปิดที่ 1,446.84 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +34.99 จุด คิดเป็น +2.48% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,450.43 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,429.62 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 58,278.28 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 925.46 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +26.08 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดทะยานขึ้น 1.32% หลังจากนางลาเอล เบรนนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ได้แนะนำให้เฟดดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลจากกระแสคาดการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
ตลาดหุ้นยุโรป เปิดตลาดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดทะยานขึ้นเมื่อคืน ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.05% ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นเอเชียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ตลาดหุ้นจีนยังได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาในทิศทางที่ดีด้วย
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวก 0.34% โดยได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของเงินเยนส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทเอกชน
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,206.75 ล้านบาท ลดลง -0.10 บาท คิดเป็น -0.56%
2. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,983.33 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
3. IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,927.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.50 บาท คิดเป็น +5.17%
4. BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,912.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.80 บาท คิดเป็น +5.16%
5. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,718.54 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
ดัชนีสามารถดีดกลับขึ้นมาในลักษณะเปิดกระโดดในช่วงเช้าค่อนข้างกว้าง โดยขยับขึ้นมาเล่นในกรอบ BollingerBottom ได้ที่สุด อีกทั้งยังปิด GAP ที่เปิดเอาไว้สองวันที่แล้วแถวๆ 1,435 จุดได้ ทำให้ดัชนีมีการปรับตัวขึ้นต่อเป้าหมายเพื่อทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันแถวๆ 1,447-1,448 จุด ดังนั้นวันนี้หากดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 1,438-1,437 จุดซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่าน 1,448 จุด เพิ่มลุ้นขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปแถวๆ 1,456-1,458 จุดต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
