สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน 2559 ปิดที่ 1,455.38 จุด ปรับตัวลดลง -31.82 จุด คิดเป็น -2.14% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,490.24 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,451.46 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 81,642.89 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 927.82 จุด ปรับตัวลดลง -15.57 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 0.06% หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ครั้งล่าสุด โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวเล็กน้อยในเดือนก.ค.และส.ค. อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ยังคงปรับตัวขึ้น ตลาดหุ้นยุโรปแทบไม่เปลี่ยนแปลงในช่วงเปิดตลาด ในขณะที่นักลงทุนต่างจับตาผลประชุมของธนาคากลางยุโรปคืนนี้ ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดขยับขึ้นเล็กน้อย 0.13% ภายหลังจากที่จีนได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้น แต่ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ทางการจีนจะเข้ามาแทรกแซงตลาด เพราะผู้บริหารพรรคคอมมิวินิสต์จีนออกมาให้คำมั่นเรื่องการควบคุมภาวะฟองสบู่สินทรัพย์ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบ 0.32% โดยได้รับแรงกดดันจากเงินเยนที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจจะไม่เข้าซื้อกองทุน ETF
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,862.20 ล้านบาท ลดลง -1.25 บาท คิดเป็น -2.07%
2. ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,662.54 ล้านบาท ลดลง -2.00 บาท คิดเป็น -1.25%
3. SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,645.09 ล้านบาท ลดลง -8.00 บาท คิดเป็น -1.53%
4. THAI มูลค่าการซื้อขาย 2,628.18 ล้านบาท ลดลง -2.10 บาท คิดเป็น -8.08%
5. PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,625.93 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
ดัชนีหลุดลงทำ New low อีกครั้งในรอบสัปดาห์ หลังจากหลุดลงมาต่ำกว่าจุดต่ำสุดเดิมและเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 1,477 จุด อีกทั้งดัชนียังหลุดลงมาปิด GAP ที่เปิดเอาไว้บริเวณ 1,459 จุดด้วย ทำให้มีแรงขายต่อเนื่องออกมากดให้ดัชนีลงมาปิดนอกกรอบ BollingerBottom มากขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นโอกาสรีบาวด์ระยะสั้นๆ ในวันนี้เพื่อเด้งกลับเข้าในกรอบดังกล่าวบริเวณ 1,474-1,477 จุด โดยมีแนวรับแถวๆ 1,449-1,443 จุดและ 1,436 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
