สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 11 กรกฏาคม 2561 ปิดที่ 1,636.63 จุด ปรับตัวลดลง -6.97 จุด คิดเป็น -0.42% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,641.34 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,628.03 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 44,493.49 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,078.82 จุด ปรับตัวลดลง -6.54 จุด

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 143.07 จุด เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดร่วงลงวันนี้ วิตกสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่ม

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดที่ 12,506.99 จุด ลดลง 102.86 จุด

ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง ฮั่งเส็งปิดร่วง 370.56 จุด เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์

ภาวะตลาดหุ้นจีน เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดร่วง 49.86 จุด หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว นิกเกอิปิดร่วง 264.68 จุด ปิดร่วงลงเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นหลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม แรงซื้อคืนในช่วงบ่ายได้ช่วยสกัดการร่วงลงอย่างหนักของช่วงเช้าเอาไว้ได้

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,573.69 ล้านบาท ลดลง -0.25 บาท คิดเป็น -0.51%
2. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,887.17 ล้านบาท ลดลง -2.50 บาท คิดเป็น -1.81%
3. PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,851.09 ล้านบาท ลดลง -0.50 บาท คิดเป็น -0.64%
4. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,710.23 ล้านบาท ลดลง -0.75 บาท คิดเป็น -1.15%
5. BEAUTY มูลค่าการซื้อขาย 1,709.15 ล้านบาท ลดลง -0.10 บาท คิดเป็น -1.32%

ดัชนีอ่อนตัวลงมาเล็กน้อยจากแรงขายทำกำไรระยะสั้นแต่ยังไม่หลุดปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน อีกทั้งยังประคองตัวปิดเหนือแนวรับที่ 1,632 จุดได้

ซึ่งวันนี้(12) เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันจะขยับขึ้นมาแถวๆ ระดับดังกล่าวอีกด้วย หากวันนี้ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าบริเวณดังกล่าวได้ต่อเนื่อง น่าจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้ โดยมีแนวต้านแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 25 วันและจุดสูงสุดเดิมในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 1,650-1,660 จุดต่อไป

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน