สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันอังคารที่ 14 สิงหาคม 2561 ปิดที่ 1,695.35 จุด ปรับตัวลดลง -10.61 จุด คิดเป็น -0.62% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,697.06 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,684.00 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 54,248.54 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,122.32 จุด ปรับตัวลดลง -6.30 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 0.50% เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการร่วงลงของค่าเงินตุรกีและผลกระทบที่จะลุกลามไปยังประเทศต่างๆ โดยความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง และส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ และดัชนี S&P 500 ปิดตลาดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของตุรกี แต่ก็ยังคงติดตามความคืบหน้าล่าสุดอย่างใกล้ชิด

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดอ่อนตัวลง 0.18% เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้บ่งชี้ถึงการชะลอตัวลง

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดดีดขึ้น 2.28% เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้น หลังจากที่ตลาดร่วงลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาวิกฤการณ์ทางเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นในตุรกีขณะนี้

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 6,030.71 ล้านบาท ลดลง -2.00 บาท คิดเป็น -2.81%
2. PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,002.44 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
3. PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,771.47 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
4. CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,754.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.85 บาท คิดเป็น +3.41%
5. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,484.90 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง

ดัชนีมีการปรับตัวลดลงทำ New low ในรอบสัปดาห์ โดยเป็นลักษณะกระโดดเปิด GAP ลงไปหลุดระดับ 1700 จุด ก่อนที่จะยืนและประคองตัวดีดกลับในช่วงบ่ายท้ายตลาดเล็กน้อย

หากวันนี้ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันแถวๆ 1,680 จุด +/- เล็กน้อยๆ อีก ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,700 จุดและลุ้นปิด GAP ที่เปิดเอาไว้ที่ 1,705 จุดได้ต่อไป

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน