สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม 2561 ปิดที่ 1,729.40 จุด ปรับตัวลดลง -12.56 จุด คิดเป็น -0.72% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,740.59 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,720.13 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 64,311.40 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,138.05 จุด ปรับตัวลดลง -9.70 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 0.20% ขานรับตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย.ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าการคาดการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมได้รับแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง หลังจากนักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐ และประเทศคู่ค้าอย่างแคนาดาและเม็กซิโก
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดอ่อนตัวลง โดยนักลงทุนจับตาสถานการณ์อิตาลีและซึมซับการแสดงความเห็นของประธานธนาคารกลางสหรัฐ
ตลากหุ้นตลาดหุ้นจีน ปิดทำการเนื่องในวันชาติ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลง 0.56% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นของสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อตลาดเกิดใหม่ นอกจากนี้ นักลงทุนบางส่วนยังเดินหน้าเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,227.91 ล้านบาท ลดลง -0.50 บาท คิดเป็น -0.93%
2. IVL มูลค่าการซื้อขาย 3,372.67 ล้านบาท ลดลง -0.75 บาท คิดเป็น -1.21%
3. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,372.81 ล้านบาท ลดลง -2.50 บาท คิดเป็น -1.60%
4. EA มูลค่าการซื้อขาย 2,121.22 ล้านบาท ลดลง -1.25 บาท คิดเป็น -2.59%
5. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,823.35 ล้านบาท ลดลง -0.25 บาท คิดเป็น -0.36%
ดัชนีปรับตัวลดลงหลุดทำ New low ในรอบสัปดาห์เรียบร้อย อีกทั้งยังหลุดลงมาทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันอีกด้วย โดยในช่วงท้ายตลาดดัชนีมีความพยายามประคองตัวดีดกลับขึ้นมาปิดแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน ในขณะที่ MACD เริ่มลงไปตัดเส้น SIGNAL แล้ว
หากวันนี้(5) ดัชนีหลุดปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันต่อเนื่องอีก มีโอกาสที่ดัชนีจะอ่อนตัวกลับลงไปแถวๆ 1,717 จุดก่อน โดยมีแนวรับถัดไปใกล้ๆ ที่ 1,711 จุด หากดัชนีไม่หลุดหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ นี้อีก ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับได้อีกครั้ง โดยมีแนวต้านที่ 1,735 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด