สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2559 ปิดที่ 1,537.81 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +13.21 จุด คิดเป็น +0.87% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1542.39 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1523.97 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 35,814.48 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 961.96 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +10.57 จุด
ดัชนีมีการปรับตัวขึ้นต่อทำ New high ในรอบ 3 สัปดาห์ โดยเฉพาะเป็นการปรับตัวขึ้นในช่วงบ่าย แต่วอลุ่มตลาดยังเบาบางต่อเนื่อง ประกอบกับ MACD เริ่มดีดกลับขึ้นมาไม่หลุดลงไปต่ำกว่าศูนย์
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,144.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +6.00 บาท คิดเป็น +1.63%
2. SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,341.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +4.00 บาท คิดเป็น +0.82%
3. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,210.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.00 บาท คิดเป็น +0.51%
4. BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,154.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.20 บาท คิดเป็น +1.07%
5. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,007.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.50 บาท คิดเป็น +0.53%
ส่วนสถานการณ์ต่างประเทศ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 0.56% หลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ถึงภาวะซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐ ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดอ่อนตัวลง ขณะที่ตลาดขาดปัจจัยชี้นำใหม่ๆ ประกอบกับนักลงทุนชะลอเข้าซื้อช่วงสิ้นปี ขณะเดียวกันนักลงทุนบางส่วนยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของธนาคาร Banco Monte dei Paschi di Siena
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดอ่อนตัวลงเล็กน้อย 0.20% นำโดยหุ้นกลุ่มการเงิน โดยภาวะการซื้อขายเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค ขณะเดียวกันนักลงทุนรอดูการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจจีนในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดวันนี้ร่วงลง 1.32% ถือว่าร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดกระแส‘ทรัมป์’ เมื่อเดือนที่แล้ว โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลงและเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
