หุ้นไทยรูดแดงเถือกตามดาวโจนส์ที่ดิ่งลงอย่างหนักจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล

หุ้นไทยรูดแดงเถือก – บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2561 ปิดที่ 1,682.89 จุด ปรับตัวลดลง -38.93 จุด คิดเป็น -2.26% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,688.63 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,673.59 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 82,888.83 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,105.61 จุด ปรับตัวลดลง -29.12 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนัก 3.15% โดยทั้งดาวโจนส์ และ S&P500 ต่างก็ดิ่งลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.ปีนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่พุ่งขึ้นหลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ดัชนี Nasdaq ทรุดตัวลงกว่า 300 จุด จากแรงฉุดของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดร่วงลง ภายหลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา รวมทั้งตลาดหุ้นเอเชียที่ร่วงลงด้วยเช่นกัน

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดดิ่งลง 5.22% ภายหลังจากที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคร่วงลงตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดร่วงลงเพราะความกังวลเกี่ยวกับผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ดีดตัวขึ้น

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลง 3.89% ซึ่งเป็นการดิ่งลงในวันเดียวที่หนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีนี้ หลังจากตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 8,280.51 ล้านบาท ลดลง -3.00 บาท คิดเป็น -5.56%
2. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,912.61 ล้านบาท ลดลง -1.75 บาท คิดเป็น -2.54%
3. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,346.41 ล้านบาท ลดลง -6.00 บาท คิดเป็น -3.95%
4. PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,938.90 ล้านบาท ลดลง -2.50 บาท คิดเป็น -3.14%
5. IVL มูลค่าการซื้อขาย 2,782.95 ล้านบาท ลดลง -1.50 บาท คิดเป็น -2.56%

ดัชนีมีความพยายามประคองตัวดีดกลับหลังจากปรับตัวลงแรงในช่วงเช้าในลักษณะกระโดดเปิด GAP ลงมา ซึ่งนับได้ว่าเป็นการขาย cut loss ออกมามากว่าจะเป็นการขายทำกำไร เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่พุ่งขึ้นหลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงกันถ้วนหน้า โดยในระยะสั้นดัชนีปรับตัวลงมาทำ New low ในรอบสัปดาห์แต่ไม่หลุดทำ New low ในรอบ 1 เดือนที่ 1,666 จุด

ดังนั้นวันนี้(12) หากดัชนีไม่หลุดลงมาหรือปิดต่ำกว่าระดับดังกล่าวซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับได้อีกครั้ง โดยมีแนวต้านแถวๆ เส้น BollingerBottom และเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันที่ 1,687-1,692 จุด

ด้านนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ปรับลง 38.93 จุด หรือ 2.26% อยู่ที่ระดับ 1,682.89 จุด การปรับตัวลดลงเป็นไปตามทิศทางตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียวันนี้ จากความกังวลในต่างประเทศ เกี่ยวกับค่าเงินเฟ้อและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล รวมถึงการปรับตัวลงของตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ

“อัตราการปรับตัวลดลงของตลาดหลักทรัพย์ไทยในวันนี้เป็นไปตามปัจจัยต่างประเทศ และถือว่าตลาดหลักทรัพย์ไทยปรับลดลงน้อยกว่าตลาดส่วนใหญ่ในภูมิภาค ความผันผวนที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น โดยเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันแข็งแกร่ง ขณะเดียวกัน ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง”

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ผู้ลงทุนพิจารณาลงทุนในบริษัทที่มีพื้นฐานดีและมีแนวโน้มเติบโต นอกจากนี้ ควรติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวทั้งในประเทศและต่างประเทศที่จะเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุน เพื่อการปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน