นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (22-26 ต.ค.) จะยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก หลังจากที่สัปดาห์ก่อนนักลงทุนสหรัฐฯ มีความกังวลเรื่องดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้น และความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอตัวจากผลของสงครามการค้า รวมทั้งราคาพันธบัตรของสหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้นสวนทางกับตลาดหุ้น จึงทำให้นักลงทุนทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะลดการถือสินทรัพย์เสี่ยงลงโดยเฉพาะหุ้นจึงส่งผลให้ตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ถูกลดน้ำหนักการลงทุนลงอีกครั้งหนึ่ง ขณะเดียวกันตลาดยุโรปอาจได้รับผลกระทบด้านลบจากการที่ประเทศอิตาลีถูกลดอันดับเครดิต โดย Moody’s จากระดับ Baa2 เป็น Baa3
ขณะเดียวกัน ผลจากสงครามการค้าและเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยรวมจะเริ่มได้รับผลกระทบ รวมไปถึงทิศทางราคาน้ำมันอาจอ่อนตัวลงเล็กน้อยเพราะเรื่องปริมาณการผลิตที่ตึงตัว ทั้งนี้ ต้องติดตามดูการประชุมผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 23 ต.ค. ซึ่งคาดว่าจะยังคงการปรับเพิ่มกำลังการผลิต แต่ก็ไม่ให้กระทบต่อราคาน้ำมันและรายได้ของผู้ผลิตน้ำมันเอง
สำหรับปัจจัยในประเทศ สรุปรายงานผลประกอบการของกลุ่มธนาคารไตรมาส 3 ที่ออกมา อยู่ที่ 5.5 หมื่นล้านบาท +16% YoY ; และ +2.9% QoQ ถือว่าดีกว่าที่คาด แต่หากหักรายการพิเศษ เช่น การตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น และ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin : NIM ) ที่ชะลอตัว ถือว่าโดยรวมไม่ดีนัก แต่ธนาคารขนาดใหญ่ เช่น BBL, KBANK, SCB ถือว่ามีความแข็งแรงพอสมควร ดังนั้นในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจไปที่งบการเงินของกลุ่มอื่นๆ กันต่อ โดยหุ้นขนาดใหญ่ที่ส่งจะมีการส่งงบการเงินในสัปดาห์นี้ ได้แก่ SCC คาดว่าจะออกมาอยู่ที่ 1.05 หมื่นล้านบาท -10% YoY ; -14% QoQ , PTTEP คาดว่าจะอยู่ที่ 1.27 หมื่นล้านบาท +255% QoQ และ ADVANC คาดว่าจะออกมาอยู่ที่ 8.0 หมื่นล้านบาท +8% YoY ; +0.8% QoQ
ดังนั้นทิศทางการลงทุนในสัปดาห์นี้ KTBST คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,620-1,700 จุด แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเริ่มมีความนิ่งมากขึ้น เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทในตลาดสหรัฐฯ ออกมาดี แต่นักลงทุนส่วนใหญ่น่าจะชะลอการลงทุน จากปัจจัยภายนอกทั้งเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และผลจากสงครามการค้าที่กระทบต่อปริมาณการค้าของโลก
โดยรวมแล้วและทิศทางตลาดยังไม่นิ่งและมีโอกาสอ่อนตัวลง ทำให้นักลงทุนต้องปรับกลยุทธ์ จากเดิมที่ KTBST มองว่า “หุ้นน่าจะเริ่มดีขึ้น” เปลี่ยนมาเป็น “ชะลอการลงทุน” ในหุ้นที่ยังมีปัจจัยลบหรือหุ้นที่มีแนวโน้มว่ากำไรไตรมาส 3 จะออกมาไม่ดี ส่วนการเลือกหุ้นเข้าลงทุนนั้นควรรอดูจังหวะที่ตลาดเริ่มยืนได้ สำหรับหุ้นที่ KTBST มองว่าน่าสนใจในสัปดาห์นี้ คือ หุ้นที่มีความมีมั่นคงและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น CPN, SCB, GULF, ADVANC, PTTEP, QH, BCH, HANA, MEGA
