สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม 2561 ดัชนีปิดที่ 1,637 จุด ปรับตัวลดลง -15.37 จุด คิดเป็น -0.93% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,639.67 และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,625.33 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 40,939 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,070.25 จุด ปรับตัวลดลง -13.25 จุด
นำโดยการปรับตัวลงของหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, EA), กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (SCC), กลุ่มขนส่ง (AOT), กลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB) และกลุ่มการแพทย์ (BDMS) โดยแนวโน้มตลาดเป็นแนวโน้มขาลง (Sideway Down)

ในขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยมีความกังวลจากการส่งออกที่หดตัวลง ในขณะที่ภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนในช่วงเดือน ก.ย. ลดลง 15% yoy ส่งผลลบต่อหุ้น AOT, CENTEL, ERW, MINT

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,583.85 ล้านบาท ราคาปิดที่ 48.25 บาท ลดลง -1.25 บาท คิดเป็น -2.53%
2. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,941.14 ล้านบาท ราคาปิดที่ 134.50 บาท ลดลง -3 บาท คิดเป็น -3%
3. CPALLมูลค่าการซื้อขาย 1,797.12 ล้านบาท ราคาปิดที่ 63.75 บาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท คิดเป็น +0.39%
4. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,443.12 ล้านบาท ราคาปิดที่ 61 บาท ลดลง -0.75 บาท คิดเป็น +1.21%
5. IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,229.94 ล้านบาท ราคาปิดที่ 52 บาท ลดลง -0.75 บาท คิดเป็น +1.42%

ทั้งนี้ปัจจัยต่างประเทศตลาดยังคงจับตาความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ทั้งจากประเด็นการกีดกันทางการค้ากับจีน ที่ยังมีความไม่แน่นอน และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของเฟด ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มอ่อนตัวลง ล่าสุดราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 75 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล แต่ยังต้องจับตามาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ที่จะมีผลบังคับใช้เต็มที่ในวันที่ 4 พ.ย. 2561 ประกอบกับกลุ่มโอเปกเล็งผลิตน้ำมันเพิ่ม เพื่อชดเชยการผลิตจากอิหร่านที่จะลดลง ยังคงส่งผลดีต่อ PTTEP ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,335 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน